ข้ามไปเนื้อหา

พจนานุกรมกฎหมาย/ฆ

จาก วิกิซอร์ซ
ฆ.
ฆราวาส
ฆราวาส คนผู้อยู่ครองเรือน, คนที่ไม่ใช่นักบวช (ดู คฤหัสถ์)
ฆ่า การกระทำร้ายอย่างหนึ่งอย่างใดต่อสิ่งที่มีชีวิตให้ถึงแก่ความตาย, การทำลาย
ฆ่าคน การกระทำร้ายอย่างหนึ่งอย่างใดให้บุคคล (ที่มิใช่นิติบุคคล) ถึงแก่ความตาย
ผู้ใดฆ่าคนตาย ผู้นั้นมีโทษในทางอาชญา (ดู ป.ก.อ. มาตรา ๒๔๙, ๒๕๐, ๒๕๑, ๒๕๒) เว้นไว้แต่กระทำการต้องตามข้อยกเว้นในกฎหมาย จึงจะไม่มีโทษ เช่น ฆ่าคนตายโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ (ป.ก.อ. มาตรา ๕๐) หรือกระทำการฆ่าคนตายในชะนิดที่กฎหมายให้อำนาจ เช่น เพ็ชฌฆาตฆ่านักโทษที่ถูกศาลตัดสินให้ประหารชีวิตตามหน้าที่ (ดู ป.ก.อ. มาตรา ๑๓)
ในความผิดฐานฆ่าคนตายตามประมวลกฎหมายลักษณะอาชญามีดังนี้ คือ–
(๑)ฆ่าคนตายโดยเจตนา (ป.ก.อ. มาตรา ๒๔๙)
(๒)ฆ่าคนตายโดยเจตนา และกระทำด้วยอาการทารุณร้ายกาจ (ป.ก.อ. มาตรา ๒๕๐)
(๓)ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา (ป.ก.อ. มาตรา ๒๕๑)
(๔)ฆ่าคนตายโดยประมาท (ป.ก.อ. มาตรา ๒๕๒)
(๕)ฆ่าคนตายในเวลาวิวาทต่อสู้กันแต่สามคนขึ้นไป (ป.ก.อ. มาตรา ๒๕๓)
(๖)ฆ่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระมเหสี, มกุฎราชกุมาร หรือต่อสู้ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในเวลารักษาราชการแผ่นดินต่างพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ป.ก.อ. มาตรา ๙๗)
(๗)ฆ่าพระราชโอรส พระราชธิดา ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกรัชชกาล (ป.ก.อ. มาตรา ๙๙)
(๘)ฆ่าพระราชาธิบดี, พระมเหสี, พระราชสามี หรือฆ่าผู้ที่จะสืบราชสมบัติแห่งพระราชอาณาจักร์ใด ๆ หรือต่อผู้เป็นประธานาธิบดีของประเทศที่มีพระราชไมตรี (ป.ก.อ. มาตรา ๑๑๒)
ฆาตกรรม การตายโดยฆ่าตัวเองก็ดี หรือผู้อื่นฆ่าให้ตายก็ดี แต่ไม่เกี่ยวถึงการที่เจ้าพนักงารประหารชีวิตนักโทษตามกฎหมาย (พ.ร.บ. ชัณสูตร์พลิกศพ พ.ศ. ๒๔๕๗ มาตรา ๓)
ฆาตกรรมอันเป็นวิสามัญ ผู้ตาย ๆ ด้วยเจ้าพนักงานฆ่าตายในเวลากระทำการตามหน้าที่ (พ.ร.บ. ชัณสูตร์พลิกศพ พ.ศ. ๒๔๕๗ มาตรา ๗ ข้อ ๑)
ฆาตกรรมอันเป็นสามัญ ผู้ตาย ๆ ด้วยผู้หนึ่งผู้ใด แม้จะเป็นข้าราชการหรือเจ้าพนักงานกระทำให้ตาย โดยมิได้เกี่ยวแก่กระทำการตามหน้าที่ (พ.ร.บ. ชัณสูตร์พลิกศพ พ.ศ. ๒๔๕๗ มาตรา ๗ ข้อ ๒)
ฆ่าสัตว์ การกระทำร้ายอย่างหนึ่งอย่างใดให้สัตว์ถึงแก่ความตาย
ผู้ที่ฆ่าสัตว์ตายบางอย่างมีความผิดในทางอาชญา บางอย่างไม่มีความผิด ในส่วนที่มีความผิดนั้นมีดังนี้ คือ–
(๑)ฆ่าสัตว์ในถนนหลวง (ป.ก.อ. มาตรา ๓๓๖ (๑๐))
(๒)ฆ่าสัตว์ด้วยทรมาน (ป.ก.อ. มาตรา ๓๓๕ (๑๖))
(๓)ฆ่าสัตว์โดยประสงค์จะทำให้เสียทรัพย์ (ป.ก.อ. มาตรา ๓๒๕ (๓))
(๔)ฆ่าโค กระบือ และสุกรในหัวเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ. ลักษณะฆ่าโค กระบือ และสุกรตามหัวเมือง ร.ศ. ๑๑๙ มาตรา ๑๘ และดู พ.ร.บ. เพิ่มเติม พ.ร.บ. ลักษณะฆ่าโคกระบือและสกุรตามหัวเมือง ร.ศ. ๑๑๙)
(๕)ฆ่าโค กระบือ และสุกรในหัวเมืองณที่อื่น ๆ นอกโรงฆ่าสัตว์หรือที่ ๆ เจ้าพนักงานผู้อนุญาตได้อนุญาตไว้ (พ.ร.บ. ลักษณะฆ่าโค กระบือ และสุกรตามหัวเมือง ร.ศ. ๑๑๙ มาตรา ๑๙ และดู พ.ร.บ. เพิ่มเติม พ.ร.บ. ลักษณะฆ่าโคกระบือและสกุรตามหัวเมือง ร.ศ. ๑๑๙)
(๖)ฆ่าโคกระบือในกรุงเทพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน (ประกาศกรมพระนครบาล ว่าด้วยการกำหนดการฆ่าสัตว์พาหนะ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๑๑)
(๗)ฆ่าสุกรในกรุงเทพฯ โดยไม่เสียภาษี หรือสุกรนอกโรงหลวงซึ่งเจ้าพนักงานไม่ได้อนุญาต (ข้อบังคับกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ว่าด้วยการเก็บภาษีสุกรและการอนุญาตฆ่าสุกรจำหน่ายในจังหวัดพระนครและธนบุรี ลงวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๕)
เฆี่ยน การใช้ไม้ หรือหวาย หรือวัดถุทำนองนี้ตีลงที่เนื้อตัวของบุคคล
แต่เดิมการเฆี่ยนเป็นอาชญาชะนิดหนึ่ง ดั่งเช่นที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญาหลวง กฎหมายลักษณะอาญาราษฎร์ ในกฎหมายเก่า ๒ เล่ม เป็นต้น (ดู กฎหมายราชบุรี เล่ม ๑–๒) ต่อมามีประกาศพระราชบัญญัติสำหรับศาลโปรีสภา ร.ศ. ๑๑๓ ให้เปลี่ยนโทษทวนตั้งแต่ ๕๐ ทีลงมาเป็นโทษจำขังแทนโทษทวน แต่ก็มิได้ใช้ทั่ว ๆ ไป ต่อมามีประกาศให้ลงโทษจำขังแทนโทษทวน ร.ศ. ๑๑๔ ให้ใช้พระราชบัญญัติศาลโปรีสภา ร.ศ. ๑๑๓ ทั่วไป และต่อมามีประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา ร.ศ. ๑๒๗ ออกใช้ ความในมาตรา ๑๒ แห่งประมวลกฎหมายนี้กำหนดอาชญาไว้แต่เพียง ๖ สฐาน (ดู อาชญา) ไม่ปรากฎว่ามีโทษทวน เพราะฉะนั้นการเฆี่ยนจึงเป็นอันแน่ว่าได้ถูกยกเลิกแต่บัดนั้น นี่กล่าวสำหรับทั่ว ๆ ไป แต่ส่วนภายในวงการของทหารและตำรวจฯ ยังมีการเฆี่ยนเป็นอาชญาลงโทษกันอยู่ตามกฎว่าด้วยอาชญาฐานละเมิดวินัย และนักโทษยังมีการเฆี่ยนกันโดยอาศัยอำนาจในพระราชบัญญัติลักษณะเรือนจำ ร.ศ. ๑๒๐ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ ได้มีประกาศยกเลิกการโบยทหารบก, ทหารเรือ, และตำรวจฯ นี้เสียสิ้น เพราะฉะนั้นในบัดนี้การเฆี่ยนซึ่งเป็นอาชญาชะนิดหนึ่งมาแต่เดิมจึงมีแต่นักโทษเท่านั้น
โฆษ เสียงกึกก้อง, เสียงดัง (ดู อุโฆษ)
โฆษนา การทำเสียงกึกก้อง, การเป่าร้อง, การทำให้แจ้งแก่คนทั่ว ๆ ไป แต่ตามพระราชบัญญัติสมุด เอกสาร และหนังสือพิมพ์ หมายถึง “การกระทำให้แจ้งแก่คนทั่วไป, การขาย จ่ายแจก หรือเสนอขาย เสนอจ่ายแจก ซึ่งสมุด เอกสาร หรือหนังสือพิมพ์ หรือข้อความที่คัดออกจากการนั้น ไม่เลือกว่าการจ่ายแจกหรือเสนอจ่ายแจกนี้จะเป็นการให้เปล่าหรือมิใช่” (พ.ร.บ. สมุด เอกสาร และหนังสือพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๗๐ มาตรา ๔ วรรค ๖)