ข้ามไปเนื้อหา

พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา (2455)/ภาค 1/บท 11

จาก วิกิซอร์ซ
แผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒

สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าผู้เปนราชบุตรขึ้นเสวยราชสมบัติ ทรงพระนามสมเด็จพระรามาธิบดี.

ศักราช ๘๓๖ ปีมเมียฉศก ประดิษฐานพระอัฐิธาตุสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถเจ้าแลพระอัฐิธาตุสมเด็จพระอินทราชาไว้ในมหาสถูป.

ศักราช ๘๓๘ ปีวอกอัฐศก ท่านประพฤติการเบญจาเพศพระองค์ให้เล่นการดึกดำบรรพ์.

ศักราช ๘๓๙ ปีรกานพศก ให้ทำการปฐมกรรม.

ศักราช ๘๔๑ ปีกุญเอกศก แรกสร้างพระวิหารวัดศรีสรรเพชญ์ สมเด็จพระรามาธิบดีแรกหล่อพระศรีสรรเพชญ์ในวัน ค่ำ.

ครั้นถึงศักราช ๘๔๕ ปีเถาะเบญจศก วัน ๑๑ ฯ  ค่ำ ฉลองพระพุทธเจ้าพระศรีสรรเพชญ์ คณนาพระพุทธเจ้านั้นแต่พระบาทถึงยอดพระรัศมีสูงได้ ๘ วา พระภักตรนั้นยาวได้ ๔ ศอก โดยกว้างได้ ๓ ศอก พระอุระกว้าง ๑๑ ศอก แลทองหล่อพระพุทธเจ้าหนักห้าหมื่นสามพันชั่ง ทองคำหุ้มหนักสองร้อยแปดสิบหกชั่ง ข้างน่านั้นทองเนื้อเจ็ดน้ำสองขา ข้างหลังนั้นทองเนื้อหกน้ำสองขา.

ศักราช ๘๖๐ ปีมเมียสำเรทธิศก สมเด็จพระรามาธิบดีแรกให้ทำตำราพิไชยสงคราม แลแรกทำสารบาญชีพระราชพิธีทุกเมือง ขณะนั้นคลองสำโรงที่จะไปคลองศีศะจรเข้ คลองทับนางจะไปปากน้ำเจ้าพระยา ตื้น เรือใหญ่จะเดินไปมาขัดสน จึงให้ชำระ ขุดได้รูปเทพารักษ์ ๒ องค์หล่อด้วยทองสำฤทธิ์ จาฤกองค์หนึ่งชื่อพญาแสนตา องค์หนึ่งชื่อบาทสังขกร ในที่ร่วมคลองสำโรงกับคลองทับนางต่อกัน จึงให้พลีกรรมบวงสรวง แล้วรับออกมาปลูกศาลเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ณเมืองประแดง.

ศักราช ๘๖๖ ปีชวดฉศก ครั้งนั้นงาเบื้องขวาช้างต้นเจ้าพระยาปราบแตกออกไป อนึ่งในเดือนเจ็ดนั้นคนทอดบาตรสนเท่ห์ ครั้งนั้นให้ฆ่าขุนนางเสียมาก.

ศักราช ๘๖๗ ปีฉลูสัปตศก น้ำน้อย เข้าตายฝอยสิ้น อนึ่งแผ่นดินไหว แลเกิดอุบาทว์หลายประการ.

ศักราช ๘๖๘ ปีขาลอัฐศก เข้าแพงเปน ๓ ทนานต่อเฟื้อง เบี้ย ๘๐๐ ต่อเฟื้อง เกวียนหนึ่งเปนเงิน ๑ ชั่ง ๒ ตำลึง ๑ บาท ๑ สลึง ครั้งนั้นประดิษฐานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระอาทิตยวงษ์ไว้ในที่อุปราช ให้ขึ้นไปครองเมืองพระพิศณุโลก.

ศักราช ๘๗๑ ปีมเสงเอกศก ในเพลาราตรีภาค เห็นอากาศนิมิตรเปนอินทรธนูแต่ทิศหรดีผ่านไปทิศพายัพมีพรรณสีขาว อยู่ณวัน ๑๒ ค่ำสมเด็จพระรามาธิบดีเจ้าเสด็จสวรรคต อยู่ในราชสมบัติยังมิได้ราชาภิเศก ๓ ปี ราชาภิเศกแล้ว ๓๗ ปี ศิริเปน ๔๐ ปี.