ข้ามไปเนื้อหา

พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา (2455)/ภาค 1/บท 14

จาก วิกิซอร์ซ
แผ่นดินสมเด็จพระไชยราชาธิราช

ศักราช ๘๗๖ ปีจอฉศก พระไชยราชาธิราชเจ้าซึ่งเปนราชวงษ์สมเด็จพระรามาธิบดีคิดประทุษฐร้ายจับพระรัฏฐาธิราชกุมารสำเร็จโทษเสีย สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าได้เสวยราชสมบัติ.

ศักราช ๘๘๐ ปีขาลสำเรทธิศก แรกให้พูนดินวัดชีเชียง ถึงเดือน ๑๑ เสด็จไปเชียงกราน ถึงเดือน ๔ ขึ้น ๙ ค่ำ เพลาประมาณยามหนึ่งเกิดลมพยุพัดหนัก ฅอเรืออ้อมแก้วแสนเมืองมานั้นหัก เรือไกรแก้วนั้นแตก.

อนึ่งเมื่อเสด็จมาถึงเมืองกำแพงเพ็ชรนั้น พระยานารายน์เปนกระบถ ให้กุมเอาพระยานารายน์ฆ่าเสียในเมืองกำแพงเพ็ชร.

ศักราช ๘๘๗ ปีรกาสัปตศก ณวัน ค่ำ สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าเสด็จไปเมืองเชียงใหม่ ให้พระยาพิศณุโลกเปนแม่ทัพ ยกพลออกตั้งทัพไชยตำบลบางบาล ณวัน ๑๔ ฯ  ค่ำจึงยกทัพหลวงจากที่ทัพไชยไปถึงเมืองกำแพงเพ็ชร ณวัน ๑๔ ค่ำยกทัพไปตั้งเมืองเชียงทอง แล้วยกไปถึงเมืองเชียงใหม่ เข้าตีไม่ได้เมือง ครั้นณวัน ค่ำเสด็จยกพยุบาตราทัพหลวงกลับคืนยังพระนครศรีอยุทธยา อยู่ณวัน ค่ำเกิดเพลิงไหม้ในพระนครแต่ท่ากลาโหมไปถึงพระราชวังท้ายท่อตลาดยอด ลมหอบเอาลูกเพลิงไปตก ลงตะแลงแกงไหม้ลามลงไปป่าตองโรงครามฉะไกรสามวันจึงดับ มีบาญชีเรือนศาลากุฎีพระวิหารไหม้แสนห้าสิบหลัง.

ศักราช ๘๘๘ ปีจออัฐศก ณวัน ๑๑ ฯ  ค่ำสมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าเสด็จยกพยุหบาตราทัพไปเมืองเชียงใหม่ ดำรัศให้พระยาพิศณุโลกถือพล ๒ หมื่นเปนกองน่า เสด็จยกพยุหแสนยากรร้อนแรมไปโดยระยะทาง ๑๒ เวนถึงเมืองกำแพงเพ็ชร เสด็จประทับแรมอยู่ ๑๕ เวน ครั้นณวัน ค่ำเสด็จตั้งทัพไชย ถึงณวัน ค่ำจึงยกทัพหลวงจากที่นั้น ครั้นณวัน ค่ำตีได้เมืองลำพูนไชย ถึงณวัน ค่ำตีได้เมืองเชียงใหม่ ณวัน ๑๓ ฯ  ค่ำบังเกิดอุบาทว์นิมิตร เห็นโลหิตตกอยู่ณประตูบ้านแลเรือนชนทั้งปวงในเมืองนอกเมืองทุกตำบล ครั้นณวัน ๑๔ ค่ำเสด็จยกพยุหบาตราทัพหลวงจากเมืองเชียงใหม่จะมายังพระนครศรีอยุทธยา.

ศักราช ๘๘๙ ปีกุญนพศก ทรงพระประชวรปัจจุบัน เสด็จสวรรคตณมัชฌิมวิถีประเทศ มุขมนตรีเชิญพระบรมศพเข้าพระนครศรีอยุทธยา สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าเสด็จอยู่ในศิริราชมไหสวรรย์ ๑๕ พระพรรษา มีพระราชโอรสสองพระองค์ พระราชโอรสผู้พี่ทรงพระนามพระแก้วฟ้า พระชนม์ได้ ๑๑ พระพรรษา พระราชโอรสผู้น้องทรงพระนามพระศรีศิลป์ พระชนม์ได้ ๕ พระพรรษา ครั้นถวายพระเพลิงพระไชยราชาเสร็จแล้ว ฝ่ายพระเทียรราชาซึ่งเปนเชื้อพระวงษ์สมเด็จพระไชยราชานั้นจึงดำริห์ว่า จะอยู่ในฆราวาศ บัดนี้เห็นไภยจะบังเกิดมีเปนมั่นคง ไม่เห็นสิ่งใดที่จะเปนที่พึ่งได้ เห็นแต่พระพุทธสาสนาแลผ้ากาสาวพัตรอันเปนธงไชยแห่งพระอรหัตจะเปนที่พำนักพ้นภยุปัทวันตราย ครั้นดำริห์แล้วก็ออกไปอุปสมบทเปนภิกษุภาวอยู่ณวัดราชประดิษฐาน.