คณะมนตรีความมั่นคง จักต้องได้รับแจ้งโดยครบถ้วนตลอดทุกเวลาถึงกิจกรรมที่ได้กระทําไป หรืออยู่ในความดําริตามข้อตกลงส่วนภูมิภาคหรือโดยทบวงการตัวแทนส่วนภูมิภาค เพื่อการธํารงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ
ด้วยทัศนะที่จะสถาปนาภาวการณ์แห่งเสถียรภาพและสวัสดิ-ภาพ ซึ่งจําเป็นสําหรับความสัมพันธ์โดยสันติและโดยฉันท์มิตรระหว่างนานาชาติ ด้วยยึดความเคารพต่อหลักการแห่งสิทธิอันเท่าเทียมกัน และการกําหนดเจตจํานงของตนเองของประชาชนเป็นมูลฐาน สหประชาชาติจักส่งเสริม
ก. มาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้น การมีงานทําโดยทั่วถึงและภาวการณ์แห่งความก้าวหน้าและพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. การแก่ไขปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ สังคม อนามัยและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และการร่วมมือระหว่างประเทศทางวัฒนธรรมและการศึกษา และ
ค. การเคารพโดยสากล และการปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพอันเป็นหลักมูลสําหรับทุกคน โดยปราศจากความแตกต่างในทางเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา
สมาชิกทั้งปวงให้คํามั่นว่า จะดําเนินการร่วมกัน และแยกกัน ในการร่วมมือกับองค์การ เพื่อให้บรรลุผลแห่งความมุ่งหมายที่กําหนดไว้ในมาตรา ๕๕
๑. ทบวงการชํานัญพิเศษต่างๆ ที่ได้สถาปนาขึ้นโดยความตกลงระหว่างรัฐบาล และมีความรับผิดชอบระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง ในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา อนามัย และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องดังได้นิยามไว้ในเอกสารก่อตั้งของตน จักต้องนําเข้ามาสู่ความสัมพันธ์กับสหประชาชาติ ตามบทบัญญัติในมาตรา ๖๓
๒. ทบวงการตัวแทนเช่นว่านี้ ด้วยเหตุที่ได้นําเข้ามาสู่ความสัมพันธ์กับสหประชาชาติ ต่อไปก็จะเรียกว่า ทบวงการชํานัญพิเศษ
องค์การจักทําคําแนะนําสําหรับการประสานนโยบาย และกิจกรรมของทบวงการชํานัญพิเศษ
เมื่อเห็นเหมาะสม องค์การจักริเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อการก่อตั้งทบวงการชํานัญพิเศษใหม่ใดๆ อันพึงประสงค์เพื่อการยังผลสําเร็จในความมุ่งหมายที่กําหนดไว้ในมาตรา ๕๕