ประเภทที่ ๑ นั้น ได้แก่ รัฐธรรมนูญซึ่งมีที่มาจากธรรมเนียมประเพณีซึ่งสืบมาจากการสะสมธรรมเนียมปฏิบัติเก่า ๆ หลักกฎหมายดั้งเดิม คำพิพากษาของศาลสูงสุด อีกนัยหนึ่งคือ ผลของการวิวัฒนาการของประวัติศาสตร์และความเจริญของประเทศยิ่งกว่าการประกาศใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นเล่มเดียว ส่วนประเภทที่ ๒ นั้น ได้แก่ รัฐธรรมนูญซึ่งมีสภาร่างรัฐธรรมนูญยกร่างขึ้นและประกาศใช้เป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือประกาศใช้โดยพระมหากษัตริย์
อันที่จริง รัฐธรรมนูญชะนิดวิวัฒนาการก็ได้แก่รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร (unwritten) และรัฐธรรมนูญชะนิดประกาศใช้นี้ก็คือชะนิดเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร (written) นั่นเอง
รัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรหรือรัฐธรรมนูญซึ่งรวบรวมบทบัญญัติในกรปกครองประเทศไว้ในตราสารฉะบับเดียวกันหรือหลายฉะบับ โดยปกติมักจะเป็นฉะบับเดียว แต่ก็มีตัวอย่างรัฐธรรมนูญซึ่งประกอบด้วยตราสารหลายฉะบับ เช่น รัฐธรรมนูญฝรั่งเศสก่อนฉะบับปี ค.ศ. ๑๙๔๖ ซึ่งมี ๓ ฉะบับด้วยกัน มีแก้ไขเพิ่มเติมอีกหลายฉะบับซึ่งรวมกันแล้วเป็นรัฐธรรมนูญสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยปกติ รัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรเป็นตราสารถือกันว่า มีความศักดิ์สิทธิ์พิเศษ (special sanctity) แตกต่างจากกฎหมายธรรมดา และมีน้ำหนักในทางกฎหมายสูงสุดยิ่งกว่ากฎหมายอื่น การแก้ไขเพิ่มเติมก็ต้องมีพิธีการพิเศษ ไม่ใช่แก้อย่างกฎหมายธรรมดา ผู้ใดจะยกเลิกไม่ได้ง่าย ๆ ได้สำรวจดูรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรของหลายประเทศแล้ว ล้วนแต่วางหลักการให้แก้ไขยากทั้งสิ้น