ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:ข้อบังคับสำหรับกระบวนพิจารณาฯ พระยอดเมืองขวาง (ร.ศ. ๑๑๓ พ.ศ. ๒๔๓๗).pdf/1

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้ตรวจสอบแล้ว
เล่ม ๑๑
๘๗
ราชกิจจานุเบกษา


  • ข้อบังคับสำหรับกระบวนพิจารณา
  • ที่จะได้ใช้ในศาลไทย
  • กับฝรั่งเศสผสมกัน
  • อันเปนศาลที่จะชำระคดีความ
  • พระยอดเมืองขวาง

คำฟ้องหา ซึ่งพนักงานผู้เปนทนายแผ่นดินแต่งขึ้นนั้น จะต้องแจ้งความให้ผู้ต้องหาทราบ อย่างน้อยที่สุดก็ ๓ วัน ก่อนเวลาที่จะเปิดศาลชำระความนั้น

ศาลนั้นจะต้องนั่งชำระความตามวันแลเวลา ซึ่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลนี้จะได้กำหนดไว้ให้ชำระกันในห้องอันหนึ่งที่สถานทูตฝรั่งเศส

ผู้พิพากษาก็ดี พยานก็ดี แลผู้ต้องหาก็ดี บรรดาเปนผู้ที่พูดภาษาไม่เหมือนกันนั้น อธิบดีศาลจะได้ให้มีล่ามใช้ ล่ามนั้นอธิบดีศาลจะให้สาบาลว่า จะแปลความซึ่งกล่าวกัน ในระหว่างผู้ซึ่งพูดต่างภาษากันนั้นโดยสัจโดยจริงตามที่ได้กล่าวกัน

ผู้ต้องหานั้น จะได้มายังศาลโดยไม่ต้องมีเครื่องพันธนาการอันใด ให้มีแต่ผู้คุมซึ่งกำกับสำหรับไม่ให้หนีหายเท่านั้น พร้อมกับทนายของผู้ต้องหามาด้วยกันแล้ว อธิบดีศาลจะได้ถามชื่อ อายุ ตำแหน่งซึ่งประกอบกิจการงาน กับตำบลที่เกิดของผู้ต้องนั้นแล้ว ก็จะได้บอกให้ผู้ต้องหาเอาใจใส่คอยฟังความ ซึ่งจะได้ยินต่อไป แล้วในขณะนั้น อธิบดีศาลจะได้มีคำสั่งให้ยกระบัตรศาลอ่านคำ

ฟ้อง ซึ่งยกระบัตรจะต้องอ่านด้วยเสียงอันดังด้วยแล้ว

พนักงานผู้เปนทนายแผ่นดิน จะได้กล่าวคำอธิบาย ในเรื่องที่ฟ้องหานั้นแล้ว ภายหลังจะได้ยื่นรายชื่อพยาน ผู้ซึ่งควรจะให้มาเบิกความ ตามที่ทนายแผ่นดินขอให้สืบ ฤๅตามที่ผู้ต้องหาขอให้สืบนั้น รายชื่อพยานนี้ ยกระบัตรศาลจะได้อ่านขึ้นโดยเสียงอันดังด้วยแล้ว

อธิบดีศาล จะได้สั่งให้พยานออกไปอยู่ในห้องหนึ่ง ซึ่งจัดไว้สำหรับพยานพัก ห้ามไม่ให้พยานไปจากห้องนั้น เว้นไว้แต่จะเข้าไปเบิกความในศาล

ผู้ต้องหานั้น จะต้องถามเอาคำให้การไว้แล้ว จะได้ถามพยานผู้ซึ่งต้องสาบาลว่า จะเบิกความตามที่รู้เห็นแต่โดยสัจโดยจริง ไม่มีสิ่งอื่นนอกจากความสัจแล้ว ยกระบัตรศาลจะต้องจดถ้อยคำลงไว้ กับทั้งชื่อพยาน คือชื่อตัว ตำแหน่งซึ่งประกอบกิจการงาน อายุแลตำบลที่อยู่ของพยานนั้น

เมื่อได้ถามพยานเบิกความแล้ว เปนคำ ๆ ไปนั้น อธิบดีศาลจะได้ถามผู้ต้องหาว่า จะมีประสงค์ที่จะมีคำคัดค้านท้วงติงคำพยาน อันพึงได้ให้การเปนผิดต่อผู้ต้องหานั้นประการใดบ้าง แต่ห้ามไม่ให้ขัดขวางพยานผู้ซึ่งเบิกความอยู่นั้น ผู้ต้องหาฤๅทนายของผู้ต้องหานั้น จะซักไซ้ถามพยานก็ได้ แต่โดยร้องขอให้อธิบดีศาลถาม เมื่อพยานให้การแล้ว แลจะว่ากล่าว