หน้า:ข้อบังคับ อสส (๒๕๖๐-๑๑-๑๐).pdf/2

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๒๐ ก

๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
หน้า ๒๕
ราชกิจจานุเบกษา

(๒) การตรวจสอบทรัพย์สิน สิทธิเรียกร้องในทรัพย์สิน ของผู้ต้องโทษปรับ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น พันธบัตรรัฐบาล ให้มีหนังสือไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย

(๓) การตรวจสอบทรัพย์สินและสิทธิเรียกร้องในบัญชีเงินฝาก และสิทธิเรียกร้องอื่นของผู้ต้องโทษปรับ ที่มีอยู่กับสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ออมทรัพย์ เช่น สลากออมสิน สลากออมทรัพย์ หน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้น หรือเงินปันผล ให้มีหนังสือไปยังสถาบันการเงินและสหกรณ์ออมทรัพย์นั้น ๆ แล้วแต่กรณี

(๔) การตรวจสอบหลักทรัพย์ที่เป็นหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของผู้ต้องโทษปรับ ให้มีหนังสือไปยังผู้ออกหลักทรัพย์ ผู้ครอบครองตราสาร รวมทั้งบุคคลซึ่งต้องชำระหนี้ตามตราสารนั้น ผู้ฝากหลักทรัพย์และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แล้วแต่กรณี

(๕) การตรวจสอบทรัพย์สินประเภทสังหาริมทรัพย์ของผู้ต้องโทษปรับที่มีการจัดทำทะเบียนหรือมีหลักฐานกับหน่วยงานของรัฐ เช่น เครื่องจักร รถยนต์ อาวุธปืน ให้มีหนังสือไปยังนายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับหลักฐานนั้น

(๖) กรณีที่ผู้ต้องโทษปรับเป็นนิติบุคคล อาจทำการตรวจสอบทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องอื่นใดของผู้ต้องโทษปรับที่ไปปรากฏเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใดที่มีความสัมพันธ์กับผู้ต้องโทษปรับที่เป็นนิติบุคคลนั้น โดยให้มีหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานของรัฐที่มีข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นดังกล่าว

ในกรณีที่ค่าปรับที่ผู้ต้องโทษปรับไม่ยอมชำระเป็นจำนวนเงินเล็กน้อย ก่อนดำเนินการตรวจสอบหาทรัพย์สินของผู้ต้องโทษปรับตามวรรคหนึ่ง พนักงานอัยการอาจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ วรรคหนึ่ง ก็ได้

ข้อ  เพื่อให้การตรวจสอบหาทรัพย์สินเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการตรวจสอบทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ ๕ เช่น ประเภททรัพย์สินต่าง ๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ลักษณะ ๒ การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง หากพนักงานอัยการเห็นสมควร ให้มีหนังสือไปยังหน่วยงานหรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

ข้อ  ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตรวจสอบหาทรัพย์สินของผู้ต้องโทษปรับ หากไม่ได้รับข้อเท็จจริงในการตรวจสอบหาทรัพย์สินจากหน่วยงานหรือบุคคลตามข้อ ๕ และข้อ ๖ พนักงานอัยการอาจใช้อำนาจตามมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ออกคำสั่งเรียกบุคคลใดมาให้การต่อพนักงานอัยการ ออกคำสั่งให้ส่งพยานหลักฐานเอกสารหรือวัตถุ และดำเนินการอื่นตามที่เห็นสมควร รวมทั้งอาจแจ้งให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการใดตามที่เห็นสมควรเพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินและสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของผู้ต้องโทษปรับนั้นก็ได้