ณวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๗ กองทัพกลับมาถึงกรุงเทพฯ คงมียศเปนว่าที่นายพันตรี รับราชการในตำแหน่งปลัดกอง ๆ ทหารราบนอก “รักษาพระองค์” ตามเดิม
ณวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๓๗ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ เหรียญชื่อจักรมาลา แลเหรียญรัชฎาภิเศกมาลา
ปี พ.ศ. ๒๔๓๘ ย้ายไปรับราชการในตำแหน่งผู้บังคับการกองทหาร มณฑลพิศณุโลก
ปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ช้างเผือก ชั้นที่ ๕ ทิพยาภรณ์ แลเหรียญประพาศมาลา
วันที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๑ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรยศทหารเปนนายพันตรี
ปี พ.ศ. ๒๔๔๒ ออกจากประจำการเปนกองหนุน
ปี พ.ศ. ๒๔๔๗ ได้รับพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ ๔ ชั้นที่ ๕
ครั้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ ได้รับพระราชทานเบี้ยบำนาญ
ครั้นถึง พ.ศ. ๒๔๕๔ ป่วยเปนลมอำมพาต มีอาการเรื้อรัง ทรุดบ้าง ทรงบ้าง
วันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๘ ถึงแก่กรรม อายุได้ ๖๒ ปี หลวงพิทักษ์นฤเบศร์มีบุตรชายคน ๑ คือ นายพลตรี พระยาเทพาธิบดี ที่เปนเจ้าภาพงานศพแลพิมพ์หนังสือนี้