หน้า:คหก ขุนหลวงฯ - ๒๔๕๙.pdf/23

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

 ส่วนพระสุธรรมราชานั้น วันพุฒได้ครองกรุงทวาราวดีศรีอยุทธยามาแต่เมื่อจุลศักราชได้ ๙๒๕ ปี พระชนม์ได้ ๒๐ ปีอยู่ในราชสมบัติได้ ๑๕ ปี เปน ๓๕ ปีสำเร็จ เมื่อสำเร็จนั้นจุลศักราชได้ ๙๔๐ ปี ๚

 จึ่งพระราชบุตรน้อย พระนามชื่อพระเอกาทศรถนั้น ขึ้นว่าราชการงานกรุงแทนที่พระบิดา เปนแต่ที่มหาอุปราชรักษาธานีไว้ ด้วยพระนเรศร์เชษฐายังมีอยู่พระองค์หนึ่ง จึ่งไม่ภิเศกศรี ด้วยพระองค์นั้นรักใคร่พระเชษฐายิ่งนัก จึ่งว่าราชการงานกรุงทั้งปวงแทนที่แล้วรักษาธานีเขตรขัณฑ์ไว้ท่าพระเชษฐาธิราช ๚

 ส่วนพระเจ้าหงษานั้น อยู่นานมาพระองค์ก็ได้ยินข่าวเลื่องฦๅมาว่า ยังมีพระมหามุนีองค์หนึ่งเสด็จอยู่เมืองพม่าใหญ่ เรียกเมืองยะไข่ เปนพระพุทธรูปสร้างไว้แต่เมื่อครั้งพระพุทธเจ้ายังเสด็จอยู่นั้น มีพุทธานุภาพยิ่งนัก ปาฏิหารได้ ให้มีพระรัศมีนั้นเปนต่าง ๆ ถ้าแลบุคคลผู้ใดจะปราถนาสิ่งใด ๆ ก็ดี ทูลขออธิฐานแล้วก็ได้ดั่งใจปราถนา อันพระมหามุนีองค์นี้มีพุทธานุภาพยิ่งนัก พระเจ้าหงษาจึ่งมีพระไทยศรัทธาขึ้นมาตั้งพระมหามุนีเปนหนักหนา จึ่งสั่งให้จัดแจงแต่งเครื่องสักการบูชาเปนอันมาก มีทั้งผ้าทรงแลไตรจีวรทอง ทั้งธูปเทียนทอง แลเข้าตอกดอกไม้ทอง แลมีทั้งฉัตรวงแลธงทองทั้งปวงต่าง ๆ เปนอันมาก กับรูปสิบสองนักษัตรที่พระเจ้าหงษาแบ่งเอามาแต่เมืองกรุงศรีอยุทธยานั้น คือรูปมนุษย์ รูปช้างเอราวรรณ รูปม้าสินธพ รูปราชสีห์ รูปคชสีห์ รูปนรสิงห์ ครุธ โคอุศุภราช แต่บรรดารูปทองหล่อเหล่านี้กับเครื่องสักการบูชาทั้งปวง