หน้า:คหก ขุนหลวงฯ - ๒๔๕๙.pdf/38

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๘

บำเหน็จหนักหนา ให้เปนชั้นหลั่นกันลงมา ทั้งบุตรแลภรรยาได้ดี อันทหารห้าร้อยคนเดิมนั้นพระองค์เพิ่มบำเหน็จมีภาษี ให้ทั้งโคควายไร่นาแลที่ถิ่นฐานบ้านเรือน ทั้งทาสีทาษา แล้วให้มีตราพระราชสีห์คุ้มห้ามด่านขนอนอากรทั้งปวงเบ็ดเสร็จ มิให้เบิกจ่ายทุกกระทรวงจนต้องคดีโรงศาล ประทานให้ทั้งพิไนยหลวง ที่พระองค์ประทานทั้งปวงนี้มิให้ล่วงพระโองการที่พระเชษฐาสั่งไว้ อันเมืองกรุงศรีอยุทธยานี้มีมอญแลลาวมากมาแต่ครั้งนั้น จึ่งเอาจ่ายในการเมือง แล้วให้เลี้ยงช้างทั้งกรุงทั้งหมู่โขลงแล่น มียศทั้งสิ้น ก็มีมาแต่ครั้งนั้น อันมอญแลลาวเหล่าชเลยจึ่งมีหนักหนา ด้วยพระนเรศร์เธอกวาดต้อนเอามาทุกบ้านเมือง จึ่งมีมากมาแต่ครั้งนั้น กรุงศรีอยุทธยาเมื่อครั้งนั้น มีเดชาอานุภาพเลื่องฤๅชาปรากฎหนักหนา แล้วพระองค์จึ่งสร้างพระพุทธรูปองค์หนึ่ง จึ่งสมมุตินามเรียกพระศรีสรรเพชญ์ ใหญ่สูงสิบแปดศอก หล่อด้วยสังกะสีเปนชั้นใน ข้างนอกนั้นหุ้มทองคำ หนักทองร้อยเจ็ดสิบสามชั่งที่จำได้ แล้วพระองค์จึ่งทำเปนรูปพระเชษฐาธิราช คือรูปพระนเรศร์ จึ่งเอาไว้ในโรงแสงขวา แล้วพระองค์จึ่งสร้างปราสาท ชื่อบรรยงก์รัตนาศน์ แล้วจึ่งขุดสระล้อมรอบ แล้วจึ่งสร้างวัดราชบุรณะวัดหนึ่ง อยู่ในกรุงทิศตวันออกเฉียงใต้ วัง วัดโพธารามวัดหนึ่ง อยู่นอกกรุงทิศตวันตกเฉียงเหนือเมือง แล้วจึ่งสร้างพระเจดีย์เรียกพระมหาคาราเจดีย์องค์หนึ่ง อยู่วัดกุฎีดาวนอกเมืองอยู่ทิศตวันออก อันพระเอกาทศรถนั้น รักพระนเรศร์เชษฐายิ่งนัก อันดาบทรงของพระนเรศร์ที่คาบแล้วปีน