หน้า:คำพิพากษาฯ รัชกาลที่ 8 - ๒๔๙๘.pdf/697

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๔๔

เพียง ๓ คน คือ นายปรีดี เรือเอก วัชรชัย และนายเฉลียว

ครั้งหนึ่ง ถึงตอนซักค้านของทนายจำเลย พยานกลับว่า สำหรับนายปรีดี เข้าไปนั่งในห้องรับแขกแน่ ส่วนอีก ๒ คน จะใช่เรือเอก วัชรชัย และนายเฉลียว หรือไม่ จำไม่ได้

นายปรีดีบอกว่า มาเยี่ยมถามพยานถึงการค้าไม้ พยานตอบว่า ยังไม่ได้ลงมือ คุยอยู่ราว ๕ นาฑี พยานขอตัวออกไปบอกให้คนจัดน้ำมารับรอง ๒–๓ นาฑีก็กลับเข้ามานั่งคุยเรื่องการค้าต่อไป ประมาณ ๑๐ นาฑี นายปรีดีกับพวกก็กลับ

คำพยานปากนี้ ปรากฏว่า ในชั้นสอบสวนได้แสดงอาการอิดเอื้อนไม่ยอมที่จะให้ถ้อยคำอย่างธรรมดา พระพินิจชนคดี ผู้สอบสวน ถามว่า นายปรีดีได้ไปที่บ้านพยานหรือไม่ เพียงเท่านี้ พยานก็ไม่ตอบ ซักหนัก ๆ เข้าก็ว่า จำไม่ได้ เมื่อคาดคั้นว่า เป็นเหตุการณ์ใกล้ชิด ซึ่งพยานน่าจะจำได้และตอบได้ว่า ไปหรือไม่ พยานก็ยืนยันคำว่า จำไม่ได้ ร่ำแต่นัดถ์ยาอยู่ท่าเดียว ตั้งแต่เวลากลางวันไปจนถึงเย็นค่ำ ก็ยังไม่ยอมเผย พระพินิจฯ เห็นว่า พยานจงใจปิดบังความจริง จึงให้เชิญภรรยา และบุตรเขย (ซึ่งเป็นทนาย) ของพยานมาปรึกษาหารือ จะได้ช่วยกันรื้อฟื้นความจำ จวบจนถึงเวลาประมาณ ๒๒.๐๐ นาฬิกา พยานจึงยอมให้การออกมาเป็นปกติดั่งเช่นข้อความที่เบิกต่อศาล การที่พยานมากลับคำในตอนถูกทนายจำเลยซักค้านว่า สองคนนั้นจะใช่เรือเอก วัชรชัย และนายเฉลียว หรือไม่ จำไม่ได้นั้น พิเคราะห์เห็นว่า เป็นการกลับคำ