หน้า:คำพิพากษาฯ รัชกาลที่ 8 - ๒๔๙๘.pdf/704

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๕๑

ก็ปลอบว่า จงเห็นแก่ชาติ เกิดมาตายครั้งเดียว นำเรื่องให้ตำรวจทราบสักหน่อย ครั้งแรก นายตี๋ไม่พอใจ แต่ในที่สุด ก็ยอมไปให้ถ้อยคำแก่เจ้าพนักงาน เสร็จแล้วกลับมาต่อว่าขุนเทพฯ ว่า บอกแล้ว อย่าบอกตำรวจ ทำไมถึงบอก มาต้มกัน ทีแรกคิดว่า โทรเลขเรื่องไม้

หลังจากได้นายตี๋เป็นพยานแล้ว จึงได้ดำเนินการเรียกตัวพลเรือตรี กระแส และนางสาวทองใบ มาสอบสวนเป็นพยานดั่งกล่าว

พึงสังเกตว่า พยานชุดนี้ต่างรู้ต่างเห็นเบิกความเกี่ยวโยงติดต่อกันเป็นลำดับประกอบเจือสมกันตลอดสาย มิใช่เป็นพยานโดดเดี่ยวขึ้นมาลอย ๆ และไม่มีทีท่าว่า แกล้งเสกสรรค์ปั้นเรื่องขึ้นเลย

ตามที่พยานหลักฐานที่ได้ความมานี้ ศาลนี้เห็นควรฟังได้ว่า นายเฉลียว นายชิต กับพวก ไปที่บ้านพลเรือตรี กระแส ก่อนหน้าวันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคตจริงดั่งคำพยาน

ส่วนปัญหาว่า ไปเพื่ออะไรนั้น พลเรือตรี กระแส ว่า นายปรีดีมาเยี่ยม พูดกันเรื่องค้าไม้ ก็เมื่อยังไม่ได้ลงมือค้าจริงจัง เหตุใดจึงต้องพากันไปตั้งหลายหน และถ้าจำเลยไปที่บ้านพลเรือตรี กระแส โดยสุจริตแล้ว ก็ไม่น่าจะปิดบังถึงแก่เบิกความปฏิเสธข้อนี้ ยิ่งเมื่อระลึกถึงกิริยาอิดเอื้อนเป็นเวลานานหลายชั่วโมงของพลเรือตรี กระแส ในการตอบคำถามชั้นสอบสวนถึงข้อนี้ประกอบด้วยแล้ว ย่อมส่อใหเห็นข้อพิรุธว่า มิได้ไปมาหาสู่กันอย่างปกติ

ส่วนถ้อยคำของพวกที่ไปจะพูดจากันอย่างไรบ้าง เพื่อแสดง