หน้า:คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๒-๑๔.pdf/14

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว


ตราครุฑ
ตราครุฑ
– ๑๔ –

๗. นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ เบิกความว่า พยานเป็นภริยาของผู้ถูกร้อง ในวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๒ มีนัดโอนหุ้นที่บ้านของผู้ถูกร้องเวลา ๑๘.นาฬิกา ในวันดังกล่าว พยานอยู่ที่บ้านทั้งวัน ซึ่งในเวลาประมาณ ๑๖.๐๐ นาฬิกา นายณัฐนนท์ อภินันทน์ ทนายความผู้จัดทำตราสารโอนหุ้นเดินทางมาถึงแล้วไปเตรียมเอกสารในห้องทำงานที่ใช้เป็นสถานที่ทำการโอนหุ้น ผู้ถูกร้องมาถึงก่อนเวลา ๑๖.๓๐ นาฬิกาแล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากนั้น นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และทีมงานที่ดูแลเรื่องบัญชีและการเงิน คือ นางสาวลาวัลย์ จันทร์เกษม และนางสาวกานต์ฐิตา อ่วมงามขำ เดินทางมาถึง ผู้ถูกร้องและพยานได้โอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ชำระราคาหุ้นด้วยเช็คที่เตรียมมาก่อน โดยสั่งจ่ายผู้ถูกร้องหนึ่งฉบับและสั่งจ่ายพยานหนึ่งฉบับ เมื่อพยานได้รับเช็คแล้ว พยานเป็นผู้เก็บเช็คทั้งสองฉบับไว้และไปเรียกเก็บเงินในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๒ โดยปกติ พยานนำเช็คไปเรียกเก็บเงินด้วยตนเองเท่านั้น ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่บุตรคนเล็กเพิ่งคลอดตอนปลายเดือนกันยายน ๒๕๖๑ พยานยังเป็นแม่ลูกอ่อน ส่วนใหญ่ดูแลบุตรที่บ้าน และยังมีบุตรอีกสามคน จึงแทบไม่มีเวลา ประกอบกับเป็นเช็คที่เชื่อถือได้ จึงไม่ได้รีบร้อนนำเช็คไปขึ้นเงิน และเหตุที่ล่าช้าไปถึงเดือนพฤษภาคม เพราะหลังจากเดือนมกราคม ยุ่งเรื่องบุตร แต่พอช่วงเดือนมีนาคม มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการไม่มีการซื้อขายหุ้นจริง ทนายความจึงรวบรวมหลักฐานเพื่อนำไปให้ปากคำกับผู้ร้องในช่วงเดือนเมษายน เมื่อได้รับคืน จึงนำไปเรียกเก็บเงินในเดือนพฤษภาคม

๘. นายปิติ จรุงสถิตพงศ์ เบิกความว่า พยานเป็นหลานของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ พยาน และน้องชาย คือ นายทวี จรุงสถิตพงศ์ ได้รับโอนหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด จากนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๒ เป็นการโอนเพื่อให้เข้าไปบริหารกิจการ ต่อมาเมื่อมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๒ มีการพูดคุยเรื่องแผนดำเนินการทางธุรกิจซึ่งมีการเสนอให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ลงทุนเพิ่มอีกหลายล้านบาท แต่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่เห็นด้วยและขอให้โอนหุ้นคืน พยานจึงโอนหุ้นคืนให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๒ การโอนหุ้นทั้งสองครั้งทำที่บ้านนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยพยานเดินทางไปพร้อมกับนายทวี จรุงสถิตพงศ์ พยานจำชื่อทนายความที่ทำตราสารโอนหุ้นไม่ได้ และไม่ได้สนใจว่า ใครเป็นผู้จัดเตรียมเอกสาร จำได้แต่เพียงว่า มีพนักงานของบริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด อยู่ด้วย แต่ไม่ทราบชื่อ สำหรับการโอนหุ้นทั้งสองครั้งนั้น ไม่มีการชำระค่าตอบแทน