ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๒-๑๔.pdf/9

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว


ตราครุฑ
ตราครุฑ
– ๙ –

ตามพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๑ ตามเอกสารหนังสือสำคัญแสดงการจดแจ้งการพิมพ์ เลขทะเบียนที่ สสช ๓/๒๕๕๑ เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑ และเลขทะเบียนที่ สสช ๒๒๘/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้อง คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และเอกสารประกอบแล้ว เห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๒๗ วรรคสาม กำหนดให้มีการไต่สวนพยานบุคคลของศาลรวม ๑๐ ปาก ได้แก่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายณัฐนนท์ อภินันทน์ นายชัยสิทธิ์ กล้าหาญ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นางสาวลาวัลย์ จันทร์เกษม นางสาวกานต์ฐิตา อ่วมงามขำ นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิติ จรุงสถิตพงศ์ นายทวี จรุงสถิตพงศ์ และนายพิพัฒน์พงษ์ รุจิตนานนท์ โดยกำหนดนัดไต่สวนในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๒ พยานของศาลทั้ง ๑๐ ปากได้เบิกความต่อศาลรัฐธรรมนูญซึ่งสรุปคำเบิกความของพยานได้ดังนี้

๑.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เบิกความว่า ก่อนที่พยานจะเป็นนักการเมือง พยานได้ถือหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ของครอบครัวมากกว่า ๓๐ บริษัท สำหรับบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด พยานถือหุ้นมาประมาณ ๔ ถึง ๕ ปี ต่อมาเมื่อพยานจะทำงานด้านการเมือง จึงต้องบริหารจัดการระบบการถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ของพยานและคนในครอบครัวใหม่ จึงมีการประชุมสมาชิกในครอบครัวหลายครั้งเพื่อปรึกษาเรื่องการจัดระบบการถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ซึ่งแต่เดิมมีการถือหุ้นไขว่กันไปมาเป็นจำนวนมาก และบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทลูกถึงร้อยละ ๑๐๐ เมื่อประชุมแล้ว ได้ข้อตกลงว่า ให้สมาชิกในครอบครัวถือหุ้นในบริษัทโฮลดิ้ง และให้บริษัทโฮลดิ้งถือหุ้นในบริษัทลูกร้อยละ ๑๐๐ และให้บริษัทลูกถือหุ้นในบริษัทหลานร้อยละ ๑๐๐ เพื่อให้พยานถือหุ้นในบริษัทโฮลดิ้งเพียงบริษัทเดียว จึงจะสะดวกต่อการรายงานทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พยานจึงต้องโอนหุ้นในหลายบริษัทออกไป รวมถึงบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ด้วย โดยได้โอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๒ ตามตราสารการโอนหุ้น (เอกสารหมาย ถ ๒๖/๒) ซึ่งพยานยืนยันว่า ในวันดังกล่าว พยานปฏิบัติภารกิจที่อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ในช่วงเช้า และเดินทางกลับกรุงเทพมหานครโดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคลหมายเลขทะเบียน ๗ กภ ๘๘๓๙ กรุงเทพมหานคร เป็นพาหนะในการเดินทาง โดยมีนายชัยสิทธิ์ กล้าหาญ พนักงาน