หน้า:คำสั่งตามมาตรา ๑๗ ทุกฉบับ.pdf/4

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
– ๒ –

 (ง) สิทธิหรือสิทธิเรียกร้องที่เป็นของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และหรือ ท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์

๒. ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินบรรดาที่ตกเป็นของรัฐดังกล่าวใน ๑. ในนามของรัฐ และให้ดำเนินการตามควรทุกประการในฐานะที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น ๆ

๓. ให้กระทรวงการคลังดำเนินการดังต่อไปนี้ด้วย

 (ก) ยึดทรัพย์สินอื่นใดนอกจากที่กล่าวใน ๑. บรรดาที่เป็นของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และหรือ ท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ เท่าที่เห็นว่า จะพอกับจำนวนเงินที่รัฐต้องเสียหาย และเมื่อได้ยึดแล้ว ก็ให้กรรมสิทธิ์ของทรัพย์สินนั้นตกเป็นของรัฐ และให้กระทรวงการคลังขายทอดตลาดเป็นตัวเงินชดใช้ความเสียหายของรัฐ

 (ข) ตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง มีจำนวนไม่น้อยกว่า ๕ คน ตีราคาทรัพย์สินตาม ๑. ที่มิใช่เป็นตัวเงิน เมื่อได้ตีราคาแล้ว และเมื่อรวมราคานั้นกับทรัพย์สินตาม ๑. ที่เป็นตัวเงิน กับจำนวนเงินที่กระทรวงการคลังได้รับจากการขายทอดตลาดดังกล่าวใน (ก) มีมูลค่าเกินจำนวนเงิน ๕๗๔,๓๒๘,๐๗๘.๒๖ บาท (ห้าร้อยเจ็ดสิบสี่ล้าน สามแสน สองหมื่น แปดพัน เจ็ดสิบแปดบาท ยี่สิบหกสตางค์) ที่รัฐต้องเสียหายเท่าใด ให้กระทรวงการคลังส่งเงินจำนวนที่เกินนั้นแก่ผู้จัดการมรดกจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์

การตีราคา ให้ถือเอาราคาตลาดหรือราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในวันที่ออกคำสั่งนี้ หรือในวันที่ใกล้ที่สุด

๔. การปฏิบัติดังกล่าวใน ๓. ต้องให้แล้วเสร็จภายในสามปีนับแต่วันที่ออกคำสั่งนี้

๕. ทรัพย์สินของท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ ซึ่งพึงตกเป็นของรัฐตาม ๑. และพึงยึดมาเป็นของรัฐตาม ๓. นั้น มิให้รวมถึง ทรัพย์สินที่เป็นสินเดิมและสินส่วนตัวของท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์

๖. ในกรณีที่ปรากฏแก่กระทรวงการคลังโดยคำร้องขอของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาว่า เจ้าหนี้นั้นต้องเสียประโยชน์ในการบังคับคดีตามคำพิพากษาเพราะผลแห่งคำสั่งนี้ ถ้ากระทรวงการคลังเห็นว่า สมควรให้เจ้าหนี้นั้นได้รับชำระหนี้ตามจำนวนที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ก็ให้กระทรวงการคลัง ด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จ่ายเงินตามจำนวนที่เห็นสมควรนั้นจากเงินที่ได้รับมาโดยผลแห่งคำสั่งนี้ให้เจ้าหนี้รับไปได้ แต่ทั้งนี้ เฉพาะเมื่อมูลหนี้ตามคำพิพากษานั้นเป็นมูลหนี้เกิดจากนิติกรรมและเกิดขึ้นก่อนวันออกคำสั่งนี้ และกระทรวงการคลังเห็นว่า เป็นหนี้ที่มิได้เกิดขึ้นด้วยการสมยอม

ความในข้อนี้มิให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเวลาที่กล่าวใน ๔.

๗. หุ้นที่ตกเป็นของรัฐตาม ๑. (ค) นั้น ถ้ากระทรวงการคลังเห็นว่า หุ้นใดไม่สมควรที่รัฐจะรับไว้ ก็ให้กระทรวงการคลังปฏิเสธไม่รับหุ้นนั้นไปยังผู้ออกหุ้น เมื่อกระทรวงการคลังปฏิเสธไม่รับหุ้นใดไปแล้ว ให้ถือว่า หุ้นนั้นไม่เคยตกเป็นของรัฐ

/กระทรวงการคลัง