หน้า:คำสั่ง สตช ๒๕๕๓-๑๒๒.pdf/2

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
– ๒ –

 ในระหว่างการพิจารณาของผู้บัญชาการ ให้พนักงานสอบสวนทําการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานและดําเนินการทั้งหลายเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงหรือพิสูจน์ความผิดต่อไปโดยไม่ ต้องรอความเห็นจากผู้บัญชาการ เมื่อพนักงานสอบสวนเห็นว่ามีพยานหลักฐานสําคัญทางคดีเพิ่มเติมที่ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของผู้บัญชาการ ให้รีบนําเสนอต่อผู้บัญชาการโดยเร็ว

 ลําหรับในส่วนของกองบัญชาการตํารวจสันติบาล ให้รายงานเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่มีอํานาจหน้าที่สอบสวนรับผิดชอบทําการสอบสวนต่อไป

 ๑.๒ เมื่อปรากฎพฤติการณ์จากข่าวทางสื่อมวลชน หรือเป็นกรณีที่ไม่เป็นการกล่าวโทษ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทําการตรวจสอบ แล้วรายงานข้อเท็จจริงโดยละเอียด และพยานหลักฐาน พร้อมความเห็นเสนอผู้บัญชาการเพื่อพิจารณาว่าเป็นการกระทําที่เข้าข่ายเป็นความผิดตังกล่าวหรือไม่ หากเห็นว่าเป็นการกระทําที่เข้าข่ายเป็นความผิด ก็ให้ดําเนินการตามข้อ ๑.๑ แต่หากพิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทําดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นความผิด ให้รายงานผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติทราบโดยเร็ว

 ๑.๓ เมื่อมีการจับกุมบุคคลใดดําเนินคดีดังกล่าว เพราะเหตุกระทําความผิดซึ่งหน้าหรือมีเหตุจําเป็นอย่างอื่นให้จับได้โดยไม่มีหมายตามที่กฎหมายบัญญัติ ภายหลังการจับกุมให้พนักงานสอบสวนรีบรายงานข้อเท็จจริงโดยละเอียด และพยานหลักฐาน พร้อมความเห็นเบื้องต้น เสนอผู้บัญชาการพิจารณาตามข้อ ๑.๑

๒. ให้ผู้บัญชาการพิจารณามอบหมายรองผู้บัญชาการเป็นผู้รับผิดชอบการสอบสวนคดีหมื่นพระบรมเดชานุภาพทุกคดี

๓. เมื่อพนักงานสอบสวนทําการสอบสวนเสร็จสิ้น และ กองบัญชาการ/ตํารวจภูธรภาค ได้เสนอสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นทางคดีมายัง สํานักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้บังคับการกองคดีอาญา ประมวลเรื่องนําเข้าพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย

 ๓.๑ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (ตามที่ได้รับมอบหมาย) เป็น ประธานกรรมการ

 ๓.๒ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ หรือ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งซาติ (ตามที่ได้รับบอบหมาย) เป็น รองประธานกรรมการ

 ๓.๓ ผู้บัญชาการ สํานักงานกฎหมายและคดี เป็น กรรมการ

 ๓.๔ ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตํารวจสันติบาล เป็น กรรมการ

 ๓.๕ ผู้บัญชาการ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็น กรรมการ

 ๓.๖ ผู้บัญชาการ ท้องที่เกิดเหตุ/รับผิดชอบ เป็น กรรมการ

/๓.๓ ผู้บังคับการ