กว่านี้ จะเห็นว่า มากเกินการ ขนไปไม่ไหว ข้าพเจ้าได้มีหนังสือยังพระยาสุรินทร์ เจ้ามหินทรเทพยนิภาธร ๑ เจ้านครหลวงพระบาง ให้รวบรวมเข้าเปลือกสีซ้อมเปนเข้าสาร เกณฑ์ขอแรงชาวบ้านแลคนกองพระยาสุรินทร์บ้าง ขนไปไว้ฉางบ้านสบอี้พอเปนที่หวังวางใจได้ ความแจ้งอยู่ในหนังสือฉบับนั้นทุกประการ ๆ ซึ่งขอแรงชาวบ้านแลคนกองทัพขนเข้าดังนี้ ด้วยครั้งนั้น ไพร่พลเมืองหลวงพระบางมีอยู่น้อยตัว ต้องเข้ากองทัพเจ้าอุปราชพรหมา แต่ยังเปนที่เจ้าราชวงศ์ เจ้านายพระยาเพี้ยแสนท้าวไพร่ยกไปคอยรับกองทัพฮ่อพวกเมืองไลจะยกลงมาตีเมืองหลวงพระบางทางหนึ่ง แลยกไปปราบข่ากำเริบขัดแขงแขวงตำบลบ้านน้ำเขือง น้ำแซง น้ำอู เหนือใต้หลายหมวดกอง แต่ก่อนข้าพเจ้ายังไม่ได้ยกขึ้นไปเมืองหลวงพระบาง ทางเมืองพวน เจ้าอุปราชบัวคุมเจ้านายท้าวพระยาพลไพร่ยกไปพร้อมกับพระยาพิไชย เจ้าอุปราชป่วยกลับมาอยู่เมืองหลวงพระบาง เจ้านครหลวงพระบางจึงให้เจ้าราชวงศ์ทุกวันนี้ ยังว่าที่ราชบุตร ยกไปใหม่ ได้ว่าไว้ข้างต้นแล้ว
ณวันศุกร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๓ เวลาเช้า ๒ โมง ๓๖ นาที ยกแต่บ้านสบอี้ทางฉเพาะขึ้นบนเขาคันทุ่งตลอดยอดสูงใหญ่เดินยากจากเชิงเขาข้างนี้ไปลงข้างโน้นเวลาเย็น ๔ โมงง ๔๔ นาที หยุดอยู่ห้วยเจี้ยคืนหนึ่ง รุ่ง เวลาเช้า ๒ โมง ๔๐ นาที ยกจากห้วยเจี้ย ถึงห้วยยาวเวลากลางคืน ๒ ทุ่ม พักคืนหนึ่ง ณวันอาทิตย์ เดือน ๓ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เวลาเช้าย่ำรุ่งแล้ว ๓๗ นาที ยกจากห้วยยาวไปถึงเมืองยูเวลาเย็น ๔ โมง ๑๓ นาที แลซึ่ง