ถึง พ.ศ. ๒๔๓๕ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม เลื่อนยศขึ้นเปนนายร้อยโท ไปรับราชการในกรมทหารม้า
ถึง พ.ศ. ๒๔๓๖ ทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดาเสด็จไปรับเจ้าเอาสเตรียที่เมืองสิงคโปร์ กรมขุนพิทยลาภฯ ได้ทูลขอนายร้อยโท นพ เปนองครักษ์ตามเสด็จไปราชการคราวนั้นด้วย
ใน พ.ศ. ๒๔๓๖ (ร.ศ. ๑๑๒) เมื่อเกิดเหตุอริกับฝรั่งเศส โปรดฯ ให้พระอนุชิตชาญไชย สาย สิงหเสนี เมื่อยังเปนพระพิเรนทรเทพ เปนแม่ทัพคุมทหารไปรักษาเมืองอุบลราชธานี นายร้อยโท นพ ได้คุมทหารไปในกองทัพด้วย ไปรับราชการอยู่ปี ๑ จึงได้กลับมา
ถึง พ.ศ. ๒๔๓๘ ได้เลื่อนขึ้นว่าที่นายร้อยเอก รับราชการในตำแหน่งองครักษ์ในจอมพล สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เมื่อยังเสด็จดำรงพระยศเปนนายพลเอก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระภาณุพันธุวงศ์วรเดช เสนาบดีกระทรวงกระลาโหม
ถึง พ.ศ. ๒๔๓๙ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์มงกุฎสยามชั้นที่ ๕
ถึง พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม เปนที่นายร้อยเอกเต็มตำแหน่ง แลในปีนั้น โปรดฯ ให้ตั้งทหารราบที่ ๔ ขึ้นที่เมืองราชบุรี ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการเลือกนายร้อยเอก นพ ให้ว่าที่นายพันตรี เปนตำแหน่งปลัดกองทหารที่เมืองราชบุรีมาแต่แรกตั้ง