หน้า:ฎ ๒๕๓๑-๒๓๕๔.pdf/15

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
หมิ่นประมาท ดูหมิ่นซึ่งหน้า • ๙๖
 

ในวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๒๙ คำปราศรัยของจำเลยที่กล่าวที่อำเภอลำปลายมาศซึ่งได้มีการบันทึกเสียงไว้มีข้อความตอนหนึ่งว่า ถ้าผมเลือกเกิดเองได้ ผมจะไปเลือกเกิดทำไมเป็นลูกชาวนาจังหวัดสงขลา จะไปเลือกเกิดอย่างนั้นทำไม ถ้าเลือกเกิดได้ก็เลือกเกิดมันใจกลางพระบรมมหาราชวังนั่น ออกมาเป็นพระองค์เจ้าวีระซะก็หมดเรื่อง ไม่จำเป็นต้องออกมายืนตากแดดพูดให้พี่น้องฟัง เวลาอย่างนี้เที่ยง ๆ ก็เข้าห้องเย็น เสวยเสร็จก็บรรทมไปแล้ว ตื่นอีกที่ก็บ่ายสามโมง ที่มายืนกลางแดดอยู่ทุกวันนี้ ก็มันเลือกเกิดไม่ได้ คำปราศรัยของจำเลยที่กล่าวที่อำเภอสตึกซึ่งได้มีการบันทึกเสียงไว้มีข้อความตอนหนึ่งว่า ถ้าคนเราเลือกที่เกิดได้ ผมทำไมจะไปเกิดเป็นลูกชาวนาที่สงขลาให้มันโง่จนอยู่ทุกวันนี้ ผมเลือกเกิดมันในใจกลางพระบรมมหาราชวังไม่ดีเหรอ เป็นพระองค์เจ้าวีระไปแล้ว ถ้าเป็นพระองค์เจ้าป่านนี้ก็ไม่มายืนพูดให้คอแหบคอแห้ง นี่เวลาก็ตั้งหกโมงครึ่ง ผมเสวยน้ำจัณฑ์ เพื่อให้มันสบายอกสบายใจไม่ดีกว่าเหรอ ที่มายืนพูดนี่ก็เมื่อยพระชงฆ์เต็มทีแล้วนะ คำกล่าวของจำเลยเป็นการกล่าวแก้ให้นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ ซึ่งได้ถูกผู้รับสมัครเลือกตั้งฝ่ายตรงกันข้ามโจมตีว่านายพรเทพ เตชะไพบูลย์ เป็นลูกเศรษฐีและไม่ได้เกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่สมควรเลือกเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมามีประชาชนบางกลุ่มเคลื่อนไหวกล่าวหาว่าจำเลยหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สมาชิกวุฒิสภากลุ่มหนึ่งได้ยื่นญัตติด่วนต่อประธานรัฐสภาตามเอกสารหมาย จ. ๑๓ ป.จ. ๑ วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๒๙ จำเลยได้ไปกล่าวคำกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ห้องรับรองของรัฐสภาซึ่งมีข้อความตามเอกสารหมาย จ. ๑๔ หรือ ป.จ. ๒ และจำเลยมีหนังสือขอพระทานอภัยโทษผ่านทางราชเลขาธิการตามเอกสารหมาย จ. ๑๕ หรือ ป.จ. ๔ ข้อความที่จำเลยกล่าวปราศรัยต่อประชาชนนั้นมีข้อความตรงตามที่โจทก์บรรยายในฟ้อง