หน้า:ฎ ๒๕๓๑-๒๓๕๔.pdf/4

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๕ • ปริญญา จิตรการนทีกิจ
 

ร้อยตำรวจโท วิเชียร เฉลิมรมย์ และประชาชนอีกหลายคน ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ว่า พระองค์มีแต่ความสุขสบาย ไม่ต้องมาพูดให้ประชาชนฟังจนคอแหบคอแห้ง ขณะนี้ เป็นเวลาหกโมงครึ่ง (หมายถึง เวลาหกโมงครึ่งตอนเย็น) จะได้เสวยน้ำจัณฑ์ (สุรา) ให้สบายอกสบายใจ ขณะที่ยืนพูดนี่ก็เมื่อยพระชงฆ์ (หมายถึง แข้ง) เต็มทีแล้ว ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รัชทายาท เสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยเจตนาให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสตึก ตำบลสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒, ๙๑ รัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๒๑ มาตรา ๖ นับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๒๖๒๒๘/๒๕๒๘ ของศาลแขวงพระนครเหนือ และคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๒๒๑๒๘/๒๕๒๘ ของศาลแขวงพระนครใต้

จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่า เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยไม่มีเจตนาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ข้อความที่จำเลยกล่าวไม่เป็นการใส่ความ และไม่อาจทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้ จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยมีเจตนาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท พิพากษา