ไปตามฉันนั้น ไพแผ้วกีวดอยแดนไต่สันไพแผ้วกีวแม่ปี่วทางเหนือ เอาดอง ๕ ขึ้นไพแจ่งหนองใหม่ ตีดไปสบแม่ละงอง ตัดไพหาสันเหมือง หัวท่างช้างเคียนนั้นแล้ว ไต่ทางนั้นไพแผ้วสันแม่ชรวย ขึ้นไพตามสันนั้นเรียรายไพแผ้วกีวแม่ปี่วขุนแม่ในนั้นแล น้ำไหลไพทางเหนือ เปนที่เหมืองน้ำไหล ไพทางใต้เปนที่วัดแล ก้อนหินหลักพันเช่น เจ้าองคำกินเมืองได้หยาดน้ำหมายทานไว้ตราบเมี้ยร ๕๐๐๐ วัสสาแล้ว เหตุพระยาเส้าพระยาวัดวาคำกับด้วยกัน ลวดซ้ำทานเปนเขตรวัดเขตรเมืองไว้มีฉันนี้แล ฯ
จุลศักราชได้ ๑๑๙๐ ตัววอกสนำกัมโพชฌพิไสยในคิมหันตฤดูอมาวะสีวิสาขะมาสภูมวารไถง ไทยภาสาว่าปีเปิกไจ๊เดือนแปดแรม ๑๕ ค่ำ พร่ำว่าได้วันอังคารไทยกัดไซ้ ได้นักขัตตฤกษ์ตัวถ้วน ๓ ชื่อกิตติกา เทวดาปรากฎในประสภ ปถวีราษีฤกษ์ก็งามยามก็เต็มวันเมงก็หมดไส วันไทยก็หมดปอด เปนสุภวารยอดวันดี เหตุนั้น หมายมีพระองค์ตนเอนเจ้าปี่นเหง้ามหาอิสสราธิปเปิงในรตนติงสาอภินวบุรีศรีคุรุรัฏฐพระนครเชียงใหม่ราชธานีทีนี้เปนเค้า เจ้ามหาอุปราชาเปนประธาน แลเจ้าพระยาราชวงศ์ แลสิ่งสาคราชบุตร แล ๓๒ ขุนพร้อมเหนือสนามเจ้าซู่ตน จึงจะพร้อมกับด้วยกันทานยังเขตรน้ำหนังดินแถบใหม่ ที่เขตรหื้อเปนเขตรวัด ที่เขตรเมืองหื้อเปนเขตรเมือง มีฉันนี้แจ้งจิงแท้ดีหลีแล จุลศักราชได้ ๑๑๘๗ ตัว ปีดับเล้า เดือนเก้าออก ๑๐ ค่ำ พร่ำว่าได้วันพฤหัสถ์ ได้ราธนาเจ้าอารักษ์สํขารลงมาขูณาว่า ด้วยที่แดนดินที่พงยังมะแลผาปูน หากเปนที่เราเจ้าองคำทานล่ามเขาได้อับหื้อเจ้าหน่อเมือง เจ้าราชวงศ์ ได้เอาใจใส่หื้อระวังรักษา ได้หมายไว้ มีฉันนี้แจ้งจิงแล ๚