ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าถ่ายมาจากกันเปนแท้ ด้วยเมื่อรัชกาลที่ ๑ สุนทรภู่เปนข้าอยู่ในกรมพระราชวังหลัง คงได้ทราบเรื่องไซ่ฮั่นมาแต่เมื่อแปลที่วังหลัง ส่วนเรื่องสามก๊กนั้นเค้าเงื่อนก็มีอยู่เปนสำคัญในบทละคอนนอกเรื่องคาวีซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทหนึ่งว่า
| “๏เมื่อนั้น | ไวยทัตหุนหันไม่ทันตรึก | |
| อวดรู้อวดหลักฮักฮึก | ข้าเคยพบรบศึกมาหลายยก | |
| จะเข้าออกยอกย้อนผ่อนปรน | เล่ห์กลเรานี้อย่าวิตก | |
| ทั้งพิชัยสงครามสามก๊ก | ได้เรียนไว้ในอกสารพัด | |
| ยายกลับไปทูลพระเจ้าป้า | ว่าเรารับอาสาไม่ข้องขัด | |
| ค่ำวันนี้คอยกันเปนวันนัด | จะเข้าไปจับมัดเอาตัวมา” |
พึงเห็นได้ในบทละคอนนี้ว่าถึงรัชกาลที่ ๒ หนังสือสามก๊กที่แปลเปนภาษาไทยได้อ่านกันจนนับถืออยู่แล้ว สมกับที่อ้างว่าแปลในรัชกาลที่ ๑ ใช่แต่เท่านั้นมีเค้าเงื่อนที่จะสันนิษฐานต่อไปอีกว่าความนับถือเรื่องสามก๊กดังในพระราชนิพนธ์นั้นเปนมูลเหตุให้แปลหนังสือพงศาวดารจีนเรื่องอื่น ๆ ในรัชกาลภายหลังต่อมา ข้อนี้มีจดหมายเหตุเปนหลักฐานอยู่ในบานแผนกว่าถึงรัชกาลที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดฯ ให้แปลเรื่องเลียดก๊กอีกเรื่อง ๑ แลปรากฎนามผู้รับสั่งให้เปนพนักงานการแปลล้วนผู้มีศักดิ์สูงแลทรงความสามารถ