มาตรา ๑๓ ผู้ที่ได้รับเลือกเปนเชษฐบุรุษสำหรับอำเภอ ๑ แล้ว จะเปนเชษฐบุรุษสำหรับอีกอำเภอ ๑ ด้วยในคราวเดียวกันไม่ได้.
มาตรา ๑๔ ผู้ที่ได้รับเลือกเปนเชษฐบุรุษแล้วนั้น ต้องรับภาระทำการในหน้าที่นั้นต่อไป ถ้าไม่เต็มใจรับ จะไม่รับก็ได้ แต่ต้องถูกปรับเปนเงิน ๓๐ บาท นอกจากเจ้าพนักงานผู้อำนวยการเลือกจะยอมผ่อนผันให้โดยเหตุสมควร.
มาตรา ๑๕ ผู้ที่ได้รับเลือกเปนเชษฐบุรุษแล้ว ให้คงอยู่ในตำแหน่งโดยมีกำหนด ๑ ปี.
มาตรา ๑๖ เมื่อผู้ใดได้รับตำแหน่งเปนเชษฐบุรุษจนครบกำหนดเขตแล้ว เมื่อถึงกำหนดเลือกใหม่ จะรับตำแหน่งต่อไปก็ได้ ไม่มีข้อห้าม.
มาตรา ๑๗ ผู้ใดเปนเชษฐบุรุษแล้ว มีหน้าที่ดังต่อไปนี้.
(ก) เปนกรรมการที่ปฤกษาในสภาของนคราภิบาล และนคราภิบาลนัดให้ประชุมเมื่อใด ต้องไป และต้องแสดงความเห็นโดยสุจริต.
(ข) เปนหัวหน้าทวยนาครในเขตอำเภอของตน เพราะฉนั้น ต้องหมั่นสอดส่องดูทุกข์สุขของทวยนาคร และเปนผู้นำข้อความที่ทวยนาครปราถนาไปชี้แจงแถลงเหตุผลในสภานคราภิบาล และขอให้สภาปฤกษาและดำริห์การนั้น.
(ค) เมื่อมีเหตุการณ์อันเห็นควรที่จะนำปฤกษาในสภานคราภิบาล ให้เชษฐบุรุษแจ้งไปยังนคราภิบาลขอให้นัดประชุมสภานคราภิบาล
มาตรา ๑๘ ผู้ที่ได้รับตำแหน่งเปนเชษฐบุรุษ ไม่ได้รับเบี้ยหวัดเงินเดือนอย่างใดสำหรับตำแหน่งนั้นโดยเฉภาะ แต่จะรับเบี้ยหวัดเงินเดือนในตำแหน่งอื่นได้โดยไม่ขัดข้องต่อพระราชกำหนดนี้.