มาตรา ๒๑ ผู้พิพากษาสำหรับพิจารณาแลพิพากษาคดีตามหัวเมืองมีตำแหน่งโดยลำดับกันเปน ๒ ชั้น คือ ผู้พิพากษาชั้นที่ ๑ ผู้พิพากษาชั้นที่ ๒ มาตรา ๒๒ ผู้พิพากษาชั้นที่ ๒ มีอำนาจดังนี้ คือ ข้อ ๑ ที่จะออกหมายหรือสั่งให้จับได้ ข้อ ๒ ที่จะบังคับส่งตัวคนไปต่างแขวง ข้อ ๓ ที่จะออกหมายหรือมีคำสั่งให้ค้นของกลาง ข้อ ๔ ที่จะออกหมายเรียกคู่ความแลพยานในคดีซึ่งมีอำนาจที่จะพิจารณาได้ ข้อ ๕ ที่จะไต่สวนคดีมีโทษหลวง ข้อ ๖ ที่จะพิจารณาพิพากษาคดีมีโทษหลวงชั้นลหุโทษเพียงอาญาจำไม่เกินเดือนหนึ่ง หรือปรับไหมไม่เกินสองร้อยบาท หรือโบยเด็กด้วยไม้เรียวไม่เกินยี่สิบที ข้อ ๗ ที่จะพิจารณาพิพากษาความแพ่งซึ่งทุนทรัพย์หรือเบี้ยปรับไม่เกินสองร้อยบาท มาตรา ๒๓ ผู้พิพากษาชั้นที่ ๑ มีอำนาจดังนี้ คือ |
ข้อ ๑ บรรดาอำนาจที่มีในผู้พิพากษาชั้นที่ ๒ ก็ทำได้
ข้อ ๒ ที่จะพิจารณาแลพิพากษาคดีมีโทษหลวงที่อาญาจำไม่เกินหกเดือนหรือเบี้ยปรับไม่เกินพันบาท ข้อ ๓ ที่จะพิจารณาแลพิพากษาความแพ่งซึ่งทุนทรัพย์หรือเบี้ยปรับไม่เกินพันบาท มาตรา ๒๔ ผู้พิพากษาจะมีอำนาจตามที่ได้ว่ามานี้เฉภาะแต่เมื่อได้อยู่ในตำแหน่งได้บังคับคดีในศาลใด ๆ
มาตรา ๒๕ ศาลแขวงมีอำนาจที่จะพิจารณาแลพิพากษาคดีเพียงเท่าอำนาจในตำแหน่งของผู้พิพากษานั้นหรือต่ำกว่านั้นตามแต่เสนาบดีกระทรวงยุติธรรมจะกำหนดให้ว่า มาตรา ๒๖ ศาลเมืองมีอำนาจดังนี้ คือ ข้อ ๑ ถ้าคดีที่มาถึงศาลเมืองไม่เกินอำนาจในตำแหน่งผู้พิพากษา ผู้พิพากษาในศาลเมืองจะแยกกันพิจารณาแลพิพากษาคดีที่อยู่ในกำหนดอำนาจตำแหน่งของตนเรื่องละคนก็ได้ ข้อ ๒ ถ้าคดีที่มาถึงศาลเมืองเกินกว่าอำนาจในตำแหน่งผู้พิพากษา ก็ให้ผู้พิพากษาศาลเมืองรวมเปนคณะพร้อมกันมีอำนาจที่ |
หน้า:ธศย ๑๒๗.pdf/5
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
เล่ม ๒๕ หน้า ๓๓๓
วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๑๒๗
ราชกิจจานุเบกษา