หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/102

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
87

ธาตุนั้นน่าจะเปนของตกต่อกันมาหลายทอด แล้วเชื่อถือกันตามที่บอกเล่าต่อ ๆ มาว่า เปนพระบรมธาตุพระพุทธเจ้าถึง 1000 ปีแล้ว จึงได้เอาเข้าบรรจุพระเจดีย์องค์ที่อังกริดพบพระธาตุ อีกประการหนึ่ง ปริมานพระธาตุก็ดูมากเกินขนาดที่พระราชามหากสัตริย์ เช่น พระเจ้าอโสกมหาราชา เปนต้น จะแบ่งประทานผู้ไดผู้หนึ่ง หรือไห้ไปบันจุไว้ไนพระเจดีย์องค์ไดองค์หนึ่งถึงเท่านั้น ดูน่าจะเปนของที่สัปบุรุสไนชั้นหลังรวบรวมพระธาตุที่พบไนพระเจดีย์หักพังนะที่ต่าง ๆ บันดาอ้างเปนพระบรมธาตุพระพุทธเจ้าเอามาบันจุไว้ด้วยกัน ปริมานพระธาตุจึงได้มากถึงเพียงนั้น ฉันไม่แน่ไจว่า จะเปนพระบรมธาตุพระพุทธเจ้าทั้งหมด คิดดูเห็นว่า ที่ไทยเราบูชาพระธาตุหย่างคล้ายหินตามคติลังกา หากจะมิไช่พระบรมธาตุแท้จริง ก็ผิดเพียงบูชาก้อนหิน แต่พระธาตุอินเดียเปนกะดูกคน ถ้าองค์ที่ขอแบ่งเอามา มิไช่พระธาตุพระพุทธเจ้า จะกลายเปนมาชวนไห้ไทยไหว้กะดูกไครก็ไม่รู้ จึงเลิกความคิดที่จะขอพระธาตุมาจากลอนดอน เมื่อฉันมาถึงอินเดีย ไปดูพิพิธภันทสถานแห่งได ก็ตั้งไจจะพิจารนาดูพระธาตุที่พบไนอินเดียอันมีหยู่ไนพิพิธภันทสถานทุกแห่ง มาได้ความรู้เปนยุติว่า พระธาตุที่พบไนอินเดียเปนกะดูกคนทั้งนั้น มีหนังสือเขียนที่ห่อผ้าว่า พระบรมธาตุพระพุทธเจ้าก็มี ว่า พระธาตุพระสารีบุตรก็มี พระโมคคัลลาน์ก็มี แต่เหตุที่เปนข้อสงสัยก็ยังมีหยู่ ด้วยเครื่องประกอบเปนหลักถาน เช่น ตัวอักสรก็ดี สิ่งของที่บรรจุไว้ด้วยกันกับพระธาตุ เช่น เงินตรา เปนต้นก็ดี ล้วนเปนของเมื่อล่วงพุทธกาลตั้ง 1,000 ปีแล้วทั้งนั้น และยังมีเหตุ