หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/144

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
129

เกล้าเจ้าหยู่หัวเมื่อตั้งหอพุทธสาสนสังคหะ แล้วโอนมาเปนของหอพระสมุดสำหรับพระนคร จึงไส่ตู้กะจกไว้ไห้คนชมหยู่ไนหอพระสมุดวชิรญาน เพราะฉะนั้น ถึงเยอรมันเอาไปเสียฉบับหนึ่งก็หาสูญสิ้นจากเมืองไทยไม่ แม้เรื่องอื่น ๆ ที่เยอรมันได้ไป เรื่องก็ยังมีหยู่ไนเมืองไทยทั้งนั้น จึงไม่ต้องขอคัดสำเนา นึกเสียดายที่ไม่ได้ตรวดไนหอสมุดของฝรั่งเสสไนครั้งนั้นด้วย เพราะเมื่อไปถึงกรุงปารีส ฉันยังไม่ได้คิดขึ้นถึงเรื่องตรวดหนังสือไทย จึงผ่านไปเสียแต่แรกแล้วก็ไม่มีโอกาสอีก

(9)

เมื่อฉันออกจากตำแหน่งนายกราชบันดิตสภาพ้นจากราชการทั้งปวงแล้ว ออกไปสำราญอิริยาบถตามประสาคนแก่ชราหยู่ที่เมืองปีนัง เพราะว่า ทางกรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลงระเบียบการราชบันดิตสภาหลายหย่าง เปนต้นว่า ตั้ง "ราชบันดิตสถาน" เปนคนะผู้รู้แยกออกจากกรมการต่าง ๆ ซึ่งเคยหยู่ไนราชบันดิตสภามาแต่ก่อน ส่วนกรมการต่าง ๆ นั้น แผนกหอพระสมุดสำหรับพระนครคงเปนแผนกหยู่หย่างเดิม เรียกว่า "หอสมุดแห่งชาติ" แผนกพิพิธภันท์สถานก็คงหยู่หย่างเดิม เรียกว่า "พิพิธภันท์สถานแห่งชาติ" แผนกสิลปากรก็คงหยู่หย่างเดิม เอากรมมหรสพเพิ่มเข้าอีกแผนกหนึ่ง เรียกทั้ง 4 แผนกรวมกันว่า "กรมสิลปากร" มีอธิบดีเปนผู้บังคับการทั่วไป จะว่าแต่ฉเพาะที่เนื่อง

17