หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/149

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
134

พิสวง แต่เมื่อแกได้เข้าสมาคมไนกรุงเทพฯ ไม่ช้าเท่าได ก็ปรากตเกียรติคุน เช่น นั่งไนที่ประชุมสมุหเทสาภิบาล เพื่อนสมุหเทสาภิบาลด้วยกันก็เห็นว่า เปนคนมีสติปัญญาสมควนแก่ตำแหน่ง แม้ผู้อื่นที่ไนสมาคมข้าราชการ พอได้คุ้นเคยเห็นมารยาทและกิริยาอัชชาสัย ก็รู้ตระหนักว่า เปนผู้ดี มิไช่ไพร่ได้ดี ก็ไม่มีไครรังเกียด แม้สมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวงเมื่อดำหรัดถามถึงราชการต่าง ๆ ไนมนทลเพชรบูรน์ แกกราบทูนชี้แจง ก็โปรด และยังซงพระเมตตา เพราะเปนสหชาติเกิดร่วมปีพระบรมราชสมภพด้วยอีกสถานหนึ่ง แต่สง่าราสีของพระยาเพชรรัตนฯ (เฟื่อง) ดูเหมือนจะหยู่ที่ผิวแกเหลืองผิดกับผู้อื่นนั้นเปนสำคัน ไครเห็นก็รู้ว่าแกได้ดีเพราะได้ลำบากตรากตรำทำราชการเอาชีวิตสู้ความไข้มาแต่หนหลัง อันนี้เปนเครื่องป้องกันความบกพร่องยิ่งกว่าหย่างอื่น แต่พระยาเพชรรัตนฯ (เฟื่อง) เปนสมุหเทสาภิบาลมนทลเพชรบูรน์หยู่ได้เพียง 3 ปี ถึง พ.ส. 2446 เข้ามาเฝ้าไนกรุงเทพฯ เมื่องานฉลองพระชนมายุครบ 50 ปี ก็มาเปนอหิวาตกโรคถึงอนิจกัม สิ้นบุญเพียงอายุ 50 ปีเท่านั้น ไครรู้ก็อนาถไจ ด้วยเห็นว่า แกเพียรต่อสู้ความไข้ชนะโรคมาลาเรียแล้วมาแพ้ไข้อหิวาตกโรคง่าย ๆ เพราะไม่ได้เตรียมตัวต่อสู้มาแต่หนหลัง มีคนพากันเสียดาย

(2)

เมื่อพระยาเพชรรัตนสงคราม (เฟื่อง) เปนสมุหเทสาภิบาลมนทล