หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/17

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
2

ดูวัดพระมหาธาตุอันเปนวัดโบรานแต่ครั้งสมัยกรุงสุโขทัย และพระเจ้าบรมโกถครั้งกรุงสรีอยุธยาได้ซงปติสังขรน์ มีพระสถูปมหาธาตุกับพระวิหารหลวงเปนสิ่งสำคันหยู่ไนวัด พระมหาธาตุองค์เดิมพัง มีผู้ส้างไหม่แปลงรูปเสียแล้ว แต่วิหารหลวงยังคงหยู่หย่างที่พระเจ้าบรมโกถซงปติสังขรน์ ไนวิหารหลวงนั้นมีพระพุทธรูปปั้นองค์ไหย่ ขนาดหน้าตักสัก 8 สอก ตั้งเปนประธาน เมื่อฉันเข้าไปบูชา เห็นมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งวางนอนหยู่ไนพระหัถพระประธาน แปลกตา จึงถามพวกกรมการว่า เหตุไฉนจึงเอาพระพุทธรูปไปวางทิ้งไว้ไนพระหัถพระประธานเช่นนั้น เขาเล่าไห้ฟังว่า พระพุทธรูปองค์เล็กนั้นเดิมหยู่ที่วัดอื่น ดูเหมือนชื่อว่า วัดวังหมู หรือวัดอะไรฉันจำไม่ได้แน่ แต่เปนพระมีปาติหารย์หย่างแปลกประหลาด คล้ายกับมีผีพระยามารคอยผจนหยู่เสมอ ถ้าไครไปถวายเครื่องสักการะบูชาเมื่อได ไนไม่ช้าก็มักเกิดเหตุวิวาทบาดทเลาะกันไนตำบนนั้น จนคนครั่นคร้าม ไม่มีไครกล้าไปบูชา แต่พวกเด็กลูกสิสวัดที่เปนคนคนองเห็นสนุก พอรู้ว่า จะมีการประชุมชนที่วัดนั้น เช่น บวดนาค เปนต้น ลอบเอาเครื่องสักการะ เช่น หมากเมี่ยง ไปถวายพระพุทธรูปองค์นั้น ก็มักเกิดวิวาทบาดทเลาะกันเนือง ๆ หยู่มาคืนวันหนึ่ง พระพุทธรูปองค์นั้นหายไป ต่อมาพายหลัง เห็นมานอนหยู่ไนพระหัถพระประธานไนวิหารหลวงวัดทุ่งยั้ง ไม่รู้ว่าไครเปนผู้เอามา แต่พวกชาวบ้านก็ไม่มีไครสมัคจะรับเอากลับไปไว้ที่วัดเดิม จึงทิ้งหยู่หย่างนั้น ฉันได้ฟังเล่าเห็นขันกลั้นหัวเราะไม่ได้ สั่งไห้เขายกพระองค์นั้นลงมาตั้ง