หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/252

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
237

"เทียน ตี้ หวย" ไนเมืองจีนมาตั้งขึ้นเพื่อจะสงเคราะห์พวกจีนที่จะทำมาหากินทางเมืองมลายูมิไห้ต้องตกยากหรือได้ความเดือดร้อนเพราะถูกพวกมลายูกดขี่ข่มเหงเท่านั้น อีกประการหนึ่ง ปรากตว่า พวกอั้งยี่มีแต่ไนพวกจีนนอก แต่พวกจีนที่มาตั้งตัวเปนหลักแหล่งและพวกจีนบาบ๋าที่เกิดไนแหลมมลายูหาเกี่ยวข้องกับพวกอั้งยี่ไม่ อังกริดเห็นว่า เปนแต่สมาคมสงเคราะห์กันและกัน ก็ปล่อยไห้มีอั้งยี่หยู่ ไม่ห้ามปราม ครั้นจำเนียรกาลนานมา (ถึงสมัยรัชกาลที่ 4 กรุงรัตนโกสินท์) เมื่อเสถกิจไนแหลมมลายูจเรินขึ้น พวกพ่อค้าที่ขุดแร่ดีบุกและที่ทำเรือกสวนต้องการแรงงานมากขึ้น ต่างก็เรียกหาว่าจ้างจีนไนเมืองจีนมาเปนกัมกรมากขึ้นโดยลำดับ จำนวนจีนที่เปนอั้งยี่ก็มีมากขึ้นและจัดแยกกันเปนหลายเหล่าจนเหลือกำลังผู้ที่เปน "ตั้วเฮีย" หัวหน้าจะว่ากล่าวปกครองได้ ไม่มีไครสมัคเปนตั้วเฮีย พวกอั้งยี่ก็แยกกันเปนหลายกงสี เรียกชื่อต่างกัน ต่างมีแต่ "ยี่เฮีย" (แปลว่า พี่ที่สอง) เปนหัวหน้าเปนอิสระแก่กัน และอั้งยี่ต่างกงสีมักเกิดวิวาทตีรันฟันแทงกันจนรัถบาลรำคาน แต่จะบังคับไห้เลิกอั้งยี่ก็เกรงจะเกิดลำบาก ด้วยอาดจะเปนเหตุไห้พวกจีนไนเมืองจีนหวาดหวั่นไม่มารับจ้างเปนกัมกรพอต้องการเหมือนแต่ก่อน หย่างหนึ่ง และพวกจีนกัมกรมีมากกว่าแต่ก่อนมาก ถ้าพวกอั้งยี่ขัดขืน ก็ต้องไช้กำลังปราบปราม กลายเปนการไหย่โตขึ้นกว่าเหตุ อีกประการหนึ่ง เห็นว่า พวกอั้งยี่เปนแต่มักวิวาทกันเอง หาได้ทำร้ายต่อรัถบาลหย่างไดไม่ อังกริดตั้งข้อบังคับควบคุมพวกอั้งยี่