หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/26

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
11

เดียว พวกจีนก็ล้มตายแตกหนีกะจัดกะจายไปหมด ตามคำท่านพระครูว่า "จีนรบสู้ไทยไม่ได้ด้วยมันต้องกินข้าวต้ม พวกไทยไม่ต้องกินข้าวต้ม จึงเอาชนะได้ง่าย ๆ" แต่นั้น พวกจีนก็ไม่กล้าไปปล้นบ้านฉลองอีก เปนแต่พวกหัวหน้าประกาสตีราคาสีสะท่านวัดฉลองว่า ถ้าไครตัดเอาไปไห้ได้ จะไห้เงินสินบน 1,000 เหรียน ชื่อท่านวัดฉลองก็ยิ่งโด่งดังหนักขึ้น เมื่อรัถบาลปราบพวกจีนกบดราบคาบแล้ว ยกความชอบของเจ้าอธิการแช่มวัดฉลองที่ได้เปนหัวหน้าไนการต่อสู้พวกจีนกบดไนครั้งนั้น ประจวบเวลาตำแหน่งพระครูสังคปาโมขเมืองภูเก็ตว่างหยู่ พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าหยู่หัวจึงซงตั้งไห้เปนที่พระครูวิสุทธิวงสาจารยตำแหน่งสังคปาโมขเมืองภูเก็ตแต่นั้นมา แต่ทางฝ่ายชาวเมืองภูเก็ตเชื่อว่า ที่ชาวบ้านฉลองรบชนะพวกจีน เพราะท่านพระครูวัดฉลองมีอิทธิริทธิ์ไนทางวิทยาคม ก็นับถือกันเปนหย่างผู้วิเสสทั่วทั้งจังหวัด เรื่องที่เล่ามาเพียงนี้เปนชั้นก่อนเกิดการปิดทองท่านพระครูวัดฉลอง

มูลเหตุที่จะปิดทองนั้นเกิดขึ้นเมื่อคนนับถือท่านพระครูวัดฉลองว่าเปนผู้วิเสสแล้ว ด้วยครั้งหนึ่งมีชาวเมืองภูเก็ตสักสี่ห้าคนลงเรือลำหนึ่งไปเที่ยวตกเบ็ดไนทเล เผอิญไปถูกพายุไหย่จนจวนเรือจะอับปาง คนไนเรือพากันกลัวตาย คนหนึ่งออกปากบนเทวดาอารักส์ที่เคยนับถือขอไห้ลมสงบ พายุก็กลับกล้าหนักขึ้น คนอื่นบนสิ่งอื่นที่เคยนับถือว่าสักดิสิทธิ ลมก็ไม่ซาลง จนสิ้นคิดมิรู้ที่จะบนบานอะไรต่อไป มีคน