หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/266

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
251

เมืองพูเก็ตนั้น พระยาวิชิตสงคราม (ทัด) ซึ่งเปนพระยาพูเก็ตหยู่จนแก่ชรา จึงเลื่อนขึ้นเปนจางวาง แต่ก็ยังว่าราชการและผูกพาสีผลประโยชน์เมืองพูเก็ตหยู่หย่างแต่ก่อน เปนผู้ที่พวกจีนกัมกรเกลียดชังว่า เก็บพาสีไห้เดือดร้อน แต่หามีไครคาดว่าพวกจีนกัมกรจะกำเริบไม่

แต่แรกเกิดเหตุเมื่อเดือน 4 ขึ้น 13 ค่ำ ปีชวด พ.ส. 2419 เวลาบ่ายนั้น กลาสีเรือรบพวกหนึ่งขึ้นไปบนบก ไปเมาสุรา เกิดทเลาะกับพวกจีนที่ไนตลาดเมืองพูเก็ต แต่ไม่ทันถึงทุบตีกัน มูลนายเรียกกลาสีพวกนั้นกลับลงไปเรือเสียก่อน ครั้นเวลาค่ำ กลาสีพวกอื่น 2 คนขึ้นไปบนบก พอพวกจีนเห็น กลุ้มรุมทุบตีแทบปางตาย โปลิสไประงับวิวาท จับได้จีนที่ตีกลาสี 2 คน เอาตัวเข้าไปส่งข้าหลวง ไนไม่ช้าก็มีจีนพวกไหย่ประมาน 300 คนซึ่งรวบรวมกันหยู่ไนตลาด ถือเครื่องสาตราวุธพากันไปรื้อโรงโปลิส แล้วเที่ยวปล้นบ้านเผาวัดและเรือนไทยที่ไนเมือง พบไทยที่ไหนก็ไล่ค่าฟัน พวกไทยหยู่ไนเมืองมีน้อยกว่าจีน ก็ได้แต่พากันหนีเอาตัวรอด ฝ่ายพวกจีนได้ที ก็เรียกกันเพิ่มเติมเข้ามาจนจำนวนกว่า 2,000 คน แล้วยังตามกันยกเข้ามาหมายจะปล้นสำนักงานรัถบาลและบ้านพระยาวิชิตสงคราม เปนการกบดออกหน้า พระยาวิชิตสงครามอพยพครอบครัวหนีเอาตัวรอดไปได้ แต่พระยามนตรีฯ ไม่หนี ตั้งต่อสู้หยู่ไนบริเวนสำนักรัถบาล และรักสาบ้านพระยาวิชิตสงครามซึ่งหยู่ติดต่อกันไว้ด้วย ไห้เรียกไทยบันดามีไนบริเวนสาลารัถบาลและถอดคนโทสที่ไนจำออกมา