หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/269

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
254

(ชาย บุนนาค) เลื่อนขึ้นเปนพระยาประภากรวงส์ ไห้เจ้าหมื่นเสมอไจราช (ชื่น บุนนาค) เลื่อนขึ้นเปนพระยามนตรีสุริยวงส์ ตำแหน่งจางวางมหาดเล็ก และได้รับพระราชทานพานทองเสมอกันทั้ง 2 คน พวกกรมการที่ได้ช่วยรักสาเมืองพูเก็ตนั้น ก็พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรน์บ้าง เลื่อนบันดาสักดิ์บ้าง ตามควนแก่ความชอบ ที่เปนแต่หัวหน้าต้นแซ่ซึ่งได้ช่วยราชการครั้งนั้น โปรดไห้ส้างเหรียนติดอกเปนเครื่องหมายความชอบ (ซึ่งมาเปลี่ยนเปนเหรียนดุสดีมาลาเมื่อพายหลัง) พระราชทานเปนบำเหน็ดความชอบทุกคน แต่นั้น พวกอั้งยี่ที่เมืองพูเก็ตก็ราบคาบ

เมื่อระงับอั้งยี่ที่เมืองระนองกับเมืองพูเก็ตซึ่งเปนกบดขึ้นเมื่อปีชวด พ.ส. 2419 เรียบร้อยแล้ว ต่อมาอีก 9 ปี ถึงปีระกา พ.ส. 2428 เกิดอั้งยี่กำเริบขึ้นตามหัวเมืองไนแหลมมลายูอีกครั้งหนึ่ง แต่เปนหย่างแปลกประหลาดผิดกับที่เคยมีมาแต่ก่อน ด้วยพวกอั้งยี่ล้วนเปนไทยไปเอาหย่างจีนมาตั้งอั้งยี่ขึ้น เรียกพวกตัวเองว่า "งี่หินหัวควาย" แต่ไนทางราชการไช้ราชาสัพท์เรียกว่า "งี่หินสีสะกะบือ" หัวหน้ามักเปนพระภิกสุซึ่งเปนสมภารหยู่ตามวัด เอาวัดเปนกงสีที่ประชุม จะมีขึ้นที่เมืองไหนก่อนไม่ซาบแน่ แล้วผู้ต้นคิดแต่งพัคพวกไปเที่ยวเกลี้ยกล่อมผู้คน คือ สมภารตามวัดโดยฉเพาะไห้ตั้งอั้งยี่งี่หินหัวควายขึ้นตามเมืองต่าง ๆ ทาง