หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/272

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
257

ประมูนสู้คนอื่นไม่ได้ ก็ไห้พวกอั้งยี่ของตนที่มีหยู่ไนแขวงที่ประมูนนั้นคอยรังแกพวกเจ้าพาสีมิไห้เก็บอากรได้สดวกจนต้องขาดทุน เมื่อถึงคราวประมูนหน้า จะได้ไม่กล้าแย่งประมูนแข่งตัวนายอั้งยี่ เมื่อเกิดอุบายขึ้นหย่างนั้น คนอื่นก็เอาหย่าง มักเปนเหตุไห้เกิดอั้งยี่ต่างพวกก่อการวิวาทขึ้นตามหัวเมืองหรือไช้กำลังขัดขวางเจ้าพาสี บางทีถึงรัถบาลต้องปราบปราม ยกตัวหย่างดังเช่น พวกอั้งยี่ตั้งซ่องต้มเหล้าเถื่อนที่ตำบนดอนกะเบื้อง ไม่ห่างจากสถานีรถไฟสายไต้ที่บางตาลนัก แต่สมัยนั้นยังเปนป่าเปลี่ยว ชายแดนจังหวัดราชบุรีต่อกับจังหวัดนครปถม ขุดคูทำเชิงเทินเหมือนหย่างตั้งค่าย พวกเจ้าพาสีไปจับ ถูกพวกอั้งยี่ยิงต่อสู้จนต้องหนีกลับมา แต่เมื่อรัถบาลไห้ทหานเอาปืนไหย่ออกไป พวกอั้งยี่ก็หนีหมดไม่ต่อสู้ แต่พวกจีนเจ้าพาสีเขาคิดอุบายแก้ไขโดยไช้วิธีหย่างจีน บางคนจะผูกพาสีที่ไหนที่มีอั้งยี่มาก เขาชวนหัวหน้าไห้เข้าหุ้นโดยมิต้องลงทุน บางแห่งก็ไห้สินบนแก่หัวหน้าอั้งยี่ไนท้องถิ่น รักสาความสงบมาได้

ถึง พ.ส. 2432 พวกอั้งยี่ไนกรุงเทพฯ ก่อเหตุไหย่หย่างไม่เคยมีเหมือนมาแต่ก่อน ด้วยถึงสมัยนั้น มีโรงสีข้าวขนาดไหย่ ๆ ตั้งขึ้นหลายโรง เรือกำปั่นไฟก็มีมารับสินค้ามากขึ้น เปนเหตุไห้มีจีนเข้ามา

33