หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/281

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
266

บัญญัติห้ามมิไห้มีสมาคมอั้งยี่ไนพระราชอานาเขตอีกต่อไป รัถบาลอังกริดที่เมืองสิงคโปร์รู้ว่า ไทยสามาถปราบอั้งยี่ได้ ก็ประกาสสั่งไห้เลิกสมาคมอั้งยี่ไนเมืองขึ้นของอังกริดตามหย่างเมืองไทย วิธีเลี้ยงอั้งยี่ก็เลิกหมดแต่นั้นมา

เมื่อปราบอั้งยี่เส็ดแล้ว ไน พ.ส. 2432 นั้นเอง พระเจ้าหยู่หัวก็ซงพระกรุนาโปรดไห้สมเด็ดเจ้าฟ้ากรมพระนริสรานุวัดติวงส์เปนอธิบดีกะซวงโยธาธิการ และไห้ตัวฉันเปนอธิบดีกะซวงธัมการ มีสักดิ์เสมอเสนาบดี ก็ต้องออกจากตำแหน่งไนกรมยุธนาธิการด้วย แต่ยังคงมียสเปนนายพลและราชองครักส์หยู่หย่างเดิม เวลาตัวฉันเปนอธิบดีกะซวงธัมการหยู่ 2 ปี ไม่มีกิจเกี่ยวข้องกับอั้งยี่ จนถึง พ.ส. 2435 ซงพระกรุนาโปรดไห้ฉันเปนเสนาบดีกะซวงมหาดไทย จึงกลับมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับอั้งยี่อีก ด้วยต้องระวังพวกอั้งยี่ตามหัวเมืองหยู่เสมอ ถึงสมัยนี้ ไม่มีพวกอั้งยี่พวกไหย่เหมือนหย่างแต่ก่อน แต่ยังมีพวกจีนลักลอบตั้งอั้งยี่ตามหัวเมืองไกล้ ๆ กรุงเทพฯ หยู่เนือง ๆ มีขึ้นที่ไหนก็ปราบได้ไม่ยาก บางเรื่องก็ออกขบขัน ดังจะเล่าเปนตัวหย่างเรื่องหนึ่ง เมื่อแรกตั้งมนทลราชบุรี เวลานั้น เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทส บุนนาค) เมื่อยังเปนพระยาสุรินทรลือชัย เปนสมุหเทสาภิบาล มีพวกอั้งยี่ตั้งซ่องต้มเหล้าเถื่อนที่ตำบนดอนกะเบื้องทำสนามเพลาะสำหรับต่อสู้ขึ้นเหมือนอย่าครั้งก่อนที่ได้เล่ามาแล้ว เวลานั้น ยังไม่มีตำหรวดภูธร ฉันถามเจ้าพระยาสุรพันธฯ ว่า จะต้องการทหานปืนไหย่