หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/29

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
14

มิไช่ไนทางราชการ ด้วยไนสมัยนั้นยังไม่มีทางรถไฟ ชาวกรุงเทพฯ กับชาวเมืองปีนังยังห่างเหินกันมาก แต่มีเรือเมล์ไปมาไนระหว่างเมืองปีนังกับเมืองภูเก็ตทุกสัปดาห์ ไปมาหากันได้ง่าย ท่านพระครูวัดฉลองหยู่มาจนแก่ชรา อายุเห็นจะกว่า 80 ปี จึงถึงมรนะภาพ

เมื่อฉันออกจากตำแหน่งเสนาบดีกะซวงมหาดไทยแล้ว ไม่ได้ไปเมืองภูเก็ตมาช้านาน จนถึงรัชกาลที่ 7 ตามสเด็ดพระบาทสมเด็ดพระปกเกล้าเจ้าหยู่หัวไปเมืองภูเก็ตอีกครั้งหนึ่งเมื่อ พ.ส. 2471 เวลานั้น ท่านพระครูวัดฉลองถึงมรนะภาพเสียนานแล้ว ฉันคิดถึงท่านพระครู จึงเลยไปที่วัดฉลองด้วย ไนคราวนี้ สดวกด้วยเมืองภูเก็ตมีถนนรถยนต์ไปได้หลายทาง รถยนต์ไปครู่เดียวก็ถึงวัดฉลอง เห็นวัดครึกครื้นขึ้นกว่าเคยเห็นแต่ก่อนจนแปลกตา เปนต้นว่า กุดีเจ้าอาวาสที่ท่านพระครูเคยหยู่ก็กลายเปนตึกสองชั้น กุดีพระสงค์และสาลาที่ก่อส้างเพิ่มเติมขึ้นก็มีอีกหลายหลัง เขาบอกว่า มีผู้ส้างถวายท่านพระครูเมื่อพายหลัง แต่เมื่อมีผู้ไปส้างสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น ท่านพระครูไม่ยอมไห้แก้ไขไนบริเวนโบดที่ท่านเคยลงไปหยู่เมื่อต่อสู้พวกจีน กำแพงแก้วที่พวกลูกสิสเคยอาสัยบังตัวรบจีนครั้งนั้นก็ไม่ไห้รื้อแย่งแก้ไข ยังคงหยู่หย่างเดิม ที่ไนกุดีของท่านพระครูเขาตั้งโต๊ะที่บูชาไว้ มีรูปฉายของท่านพระครูขยายเปนขนาดไหย่ไส่กรอบหย่างลับแลตั้งไว้เปนประธานบนโต๊ะนั้น มีรอยคนปิดทองแก้สินบนที่กะจกเต็มไปหมดทั้งแผ่น เหลือเปนช่องว่างหยู่แต่ที่ตรงหน้าท่านพระครู ดูประหลาดที่ยังชอบบนปิดทองท่านพระครูหยู่