หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/290

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
275

หลายแห่งที่ทำไร่นาไม่ได้เพราะเปนที่ลุ่ม เวลารึดูแล้งดินแห้งแขงกะด้างถากไถไม่ลง ถึงรึดูฝนตกดินอ่อนถ้าถากไถทำไร่นา พอปลูกพรรนไม้ขยายกอเกิดนำต้นยังไม่ทันออกพืชผล ก็ถึงเวลาน้ำป่าไหลหลากลงมาขังไนท้องทุ่งนั้น ท่วมพรรนไม้ตายหมด เปนหย่างนั้นทุกปี จึงไม่มีไครไปทำไร่นา มีแต่กอหญ้าที่ขึ้นเอง แล้วถูกน้ำท่วมเหลือแต่ซากหยู่ไนท้องทุ่ง เขาบอกว่าถึงรึดูแล้งมีนกกะเรียน มาทำรังไข่กับแผ่นดินไนทุ่งว่างนั้นตั้งหมื่นตั้งแสน พอจวนรึดูฝน ลูกบินได้ก็พากันหายไปหมด ถึงรึดูแล้งหน้าก็กลับมาทำรังอีกเสมอทุกปี นกกะเรียนที่มีเลี้ยงกันตามบ้านไนกรุงเทพฯ ล้วนดักเอาลูกนกไปจากทุ่งนั้นทั้งนั้น เมื่อฉันเดินทางจากเมืองนครราชสีมาไป 2 วัน ถึงทุ่งมะค่า ก็เห็นฝูงนกกะเรียนทำรังหยู่มากมายหย่างเขาว่า พอมันเห็นคนหมู่ไหย่ก็ตื่นพากันทิ้งรังบินหนีขึ้นไปร่อนหยู่เต็มท้องฟ้า ดูจำนวนนกนับด้วยหมื่น ไม่เคยเห็นมีที่ไหนเหมือน ไนเมืองไทยนี้นกกะเรียนก็ไม่มีชุม เคยเห็นชินตาแต่ที่เขาจับเอามาเลี้ยงไว้ แต่นกกะเรียนเถื่อนมิไคร่จะได้เห็น จึงน่าพิสวงว่าไฉนนกกะเรียนนับหมื่นจึงพร้อมไจกันมาทำรังไนทุ่งมะค่าและมาเสมอทุกปี พิเคราะห์ดูไปเข้าเค้าที่พวกนักปราชญ์ไนยุโรปเขาสอบสวน ได้ความว่ามีนกบางชนิดย้ายที่หยู่ไปต่างทวีปตามรึดูกาลเสมอทุกปี ยกตัวหย่างดังเช่นนก "สตอก" Stork รูปร่างคล้ายกับนกฝักบัวของไทย เวลารึดูร้อนชอบไปเที่ยวอาสัยทำรังออกลูกบนหลังคาเรือนคนไนยุโรปข้างฝ่ายเหนือ พอจะเข้ารึดูหนาวมันก็พากันบินหนีออกจากยุโรปไปหยู่ไนทวีป