หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/313

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
298

เอาลงทางคลองฮีบ เรือที่ไช้ไนแม่น้ำปิงก็มีแต่ 2 หย่าง ขนาดย่อมเรียกว่า "เรือกราบแป้น" ตี 2 กรรเชียงหย่างหนึ่ง ขนาดไหญ่เรียกว่า "เรือแม่ปะ" ตี 4 กรรเชียงหย่างหนึ่ง เรือกราบแป้นมักผายได้แทบทุกแก่ง แต่เรือแม่ปะลงบางแก่งต้องลงทางคลองฮีบ วิธีลงคลองฮีบนั้น พอเรือถึงเหนือแก่งเอาเชือกผูกท้ายโยงไปรั้งไว้บนตลิ่ง แล้วไห้คนลงยืนรายไนน้ำประคองสองข้าง ค่อย ๆ หย่อนเชือกไห้เรือลง ราวสัก 20 นาทีจึงพ้นแก่ง

เมื่อฉันไปเชียงไหม่ครั้งแรกเดินบกไปจากอุตรดิตถ์ ขากลับลงมาทางเรือจากเมืองเชียงไหม่ เขาจัดเรือแม่ปะลำทรงของพระเจ้าเชียงไหม่ไห้ฉันมา และไห้ผู้เชี่ยวชาญสำหรับเรือลำนั้นแต่ครั้งพระเจ้าเชียงไหม่พามา แต่ฉันมาเกิดไม่พอไจ ด้วยพวกเชี่ยวชาญแกะวังภัยเกินขนาด ปล่อยไห้เรือลำฉันมาผายผ่านแต่ที่แก่งที่ลงง่ายหย่างประดาเสีย ถ้าเปนแก่งลงยากสักนิดก็เอาเรือหย่อนลงทางคลองฮีบช้าเสียเวลา ฉันเห็นเรือแม่ปะลำอื่น ๆ เขาผายตามกันลงไปได้คล่อง ๆ ก็ออกรำคาญ ถามนายฮ้อยผู้คุมเรือว่าเราผายหย่างเขาบ้างไม่ได้หรือ แกว่าผายก็ได้แต่เปนเรือ "สเด็ดเจ้า" มา ถ้าโดนอะไรก็จะมีความผิด จึงเอาลงทางคลองฮีบ ฉันถามว่าเมื่อครั้งพระเจ้าเชียงไหม่เคยโดนบ้างหรือ แกว่าเรือลำทรงนั้นเคยโดนล่มไนแก่งครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ฉันได้ฟังก็เข้าไจว่าคงเปนเพราะมูลนายเขากำชับกำชามาไห้ระวังหย่าไห้มีเหตุ แกก็เลยไม่กล้าผาย ฉันจึงบอกแกว่าผายเหมือนหย่างเรืออื่นเถิด ฉันหยาก