หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/314

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
299

จะดู โดยเรือจะโดนแก่งล่มฉันก็จะไม่เอาโทส สังเกตดูพวกที่เชี่ยวชาญเหล่านั้น ก็เห็นจะหยากผายอวดฝีมือหยู่แล้ว พอได้อภัยก็พากันยินดีไม่ต้องเตือนต่อไป ฉันนั่งดูมาไนเรือก็เห็นตระหนัก ว่าผายเรือล่องแก่งเปนการยาก และมีเสี่ยงภัยจิง ๆ เพราะไนแก่งมีหินเปนแง่ระกะไปทั้งนั้น ช่องเรือลงไม่ตรงเหมือนกับลำคลอง เรือลอยลงมากับเกลียวน้ำเร็วเท่า ๆ รถไฟแล่น จะยับยั้งไม่ได้ ถ้าค้ำพลาด หัวเรือแปรออกนอกร่องก็ต้องโดนหินล่มทุกลำ ได้เห็นความชำนิชำนาญของพวกผู้เชี่ยวชาญหย่างน่าพิสวง เมื่อไกล้จะถึงแก่ง นายฮ้อยถือท้ายเรือร้องสั่งว่า "เอา" เปนสัญญาเร่งกรรเชียงคำเดียว แล้วก็ไม่ออกปากพูดจาอะไรกันอีก คนหยู่ตอนหัวเรือถือถ่อขึ้นไปยืนบนโขนเรือคนหนึ่ง อีก 3 คนยืนถือถ่อประจำสองแคม คอยค้ำไห้เรือเลี้ยวหลีกเลี่ยงก้อนหิน นายฮ้อยก็คัดท้ายช่วยคนถ่อ ดูเหมือนกับนัดแนะเข้าไจกันว่า คนไหนควนจะค้ำหินก้อนไหน และนายฮ้อยควนจะเบี่ยงบ่ายท้ายเรือเพียงไหนไห้เบาแรงคนค้ำทางหัวเรือ ไม่มีที่จะก้าวก่ายหรือต้องตักเตือนกันหย่างไร ถ้าเปนแก่งลงยาก พอเรือล่องตลอดแก่งถึงวังน้ำนิ่ง พวกทางหัวเรือก็วางถ่อฟ้อนรำกันสนุกสนาน พวกเรานั่งมาไนเรือ ดูเมื่อเวลาเรือพุ่งลงแก่งก็ออกหวาดหวั่น ด้วยเห็นเรือลอยหลีกก้อนหินหวิด ๆ ลงไปตลอดแก่ง เห็นเขาฟ้อนรำเมื่อพ้นภัยก็พลอยสนุกกับเขาด้วย ไครได้ไปเที่ยวทางแก่งเชียงไหม่ ดูเหมือนจะติดไจทุกคน เพราะทางหว่างแก่งนั้น ดูเขาไม้ก็งามน่าชม เวลาล่องแก่งก็สนุก และมีที่ขึ้นเที่ยวได้ตลอด