หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/39

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
24

หย่างหนึ่ง คือ ต้นไม้ไบมีพิส เรียกว่า "ตะลังตังช้าง" เปนต้นไม้ขนาดย่อม สูงราวห้าหกสอก ขึ้นแซกแซมต้นไม้อื่นหยู่ไนป่า ไม้หย่างนี้ที่ครีบไบมีขนเปนหนามเล็ก ๆ หยู่รอบไบ ถ้าถูกขนนั้นเข้า ก็เกิดพิสไห้ปวดเจ็บ เขาว่า พิสร้ายแรงถึงช้างกลัว เห็นต้นก็ไม่เข้าไกล้ เพียงเอาไบตะลังตังช้างจี้ไห้ถูกตัว ช้างก็วิ่งร้องไป จึงเรียกว่า ตะลังตังช้าง ชาวเมืองชุมพรเล่าต่อไปว่า หาดริมลำธารแห่งหนึ่งไนทางที่ฉันไปนั้นเรียกกันว่า "หาดพม่าตาย" เพราะเมื่อพม่ามาตีเมืองไทยไนรัชกาลที่ 2 พักนอนค้างที่หาดนั้น พวกหนึ่งไม่รู้ว่า ไบตะลังตังช้างมีพิส เอามาปูนอน รุ่งขึ้นก็ตายหมดทั้งพวก คนไปเห็นพม่านอนตายหยู่ที่หาด จึงเรียกกันว่า หาดพม่าตาย แต่นั้นมา แต่ฉันฟังเล่า ออกจะสงสัยว่า ที่จิงเห็นจะเปนเมื่อพม่าหนีไทยกลับไป มีพวกที่ถูกบาดเจ็บถึงสาหัสไปตายลงที่หาดนั้น จึงเรียกว่า หาดพม่าตาย มาแต่เดิม ผเอินคนไปเห็นที่แถวนั้นมีต้นตะลังตังช้างชุม ผู้ที่ไม่รู้เหตุเดิม จึงสมมตว่า ตายเพราะถูกพิสไบตะลังตังช้าง ถ้าเอาไบตะลังตังช้างมาปูนอนดังว่า คงรู้สึกพิสสงของไบไม้ตั้งแต่แรก พอหนีเอาตัวรอดได้ ไหนจะนอนทนพิสหยู่จนขาดไจตาย ยังมีบางคนกล่าวต่อไปอีกหย่างหนึ่งว่า ไบตะลังตังช้างนั้น ถ้าตัดเอาครีบตรงที่มีขนออกเสียไห้หมดแล้ว ไช้เปนผักจิ้มน้ำพริกหรือไส่แกงกินอร่อยดี ดูก็แปลก แต่ฉันไม่ได้ทดลองไห้ไครกินไบตะลังตังช้างหรือเอาจี้ช้างไห้ฉันดู เปนแต่ไห้เอามาพิจารนาดู รูปร่างหยู่ไนประเภทไบไม้เหลี่ยม เช่น ไบมะเขือ ขนาดเขื่องกว่าไบพลูสักหน่อยหนึ่ง แต่ที่ครีบมีขน