หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/54

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
39

เมื่อ พ.ส. 2447 สมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวงสเด็ดประพาสเมืองสุพรรนครั้งแรก ครั้งนั้น ฉันไปล่วงหน้าวันหนึ่งเพื่อจะตรวดทางและที่ประทับ ไปคอยรับสเด็ดหยู่ที่อำเพอสองพี่น้อง วันที่ฉันไปถึงนั้น เวลาค่ำ พอกินอาหารแล้ว ฉันนั่งพูดหยู่กับพวกกรมการ พอสักยามหนึ่ง (21 นาลิกา) ได้ยินเสียงปืนนัด 1 ฉันจึงสั่งกรมการว่า พรุ่งนี้ไห้ไปบอกพวกชาวบ้านเสียว่า เวลาพระเจ้าหยู่หัวสเด็ดประทับหยู่ที่นี่ หย่าไห้ยิงปืน พูดยังไม่ทันขาดคำ ได้ยินเสียงปืนยิงซ้ำอีกสองสามนัด เห็นผิดสังเกต พวกกรมการดูก็พากันฉงน ฉันว่า "เกิดปล้นกันดอกกะมัง นี่หย่างไร ดูราวกับจะปล้นรับสเด็ด" สั่งไห้กรมการกับตำหรวดภูธรรีบไปไนขนะนั้น กำชับไห้จับตัวผู้ร้ายไห้ได้ พวกกรมการไปได้สักประเดี๋ยว คนหนึ่งกลับมาบอกว่า "มิไช่ผู้ร้ายปล้น หามิได้ เปนแต่พวกชาวบ้านยิงปืนจันท์อังคาด" ฉันแหงนแลดูดวงพระจันท์ ก็เห็นแหว่งจิงดังว่า มีเสียงปืนยิงอีกสักครู่หนึ่งก็เงียบไป คงเปนเพราะพวกกรมการกับตำหรวดภูธรไปห้าม

ไทยเราเข้าไจกันมาแต่ดึกดำบรรพว่า ที่เกิดจันท์อังคาดเปนเพราะพระราหูเข้าจับจะกินพระจันท์ รู้กันเช่นนั้นจนกะทั่งลูกเด็กเล็กแดง พอเห็นจันท์อังคาดก็พอไจส่งเสียงอะไรแปลก ๆ ขึ้นไปบนฟ้า หวังจะไห้พระราหูตกไจทิ้งพระจันท์ ทำนองเดียวกับขับนกไห้ทิ้งข้าวไนท้องนา ที่จิงมิไช่กลัวว่าว่า พระจันท์จะล้มตาย เปนแต่จะช่วยไห้พ้นความรำคานเท่านั้น ยังเชื่อกันต่อไปว่า พระราหูมีแต่ครึ่งตัว เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นดวงจันท์ผ่านพ้นเงามืดเฉียงไป ก็เข้าไจว่า พระราหูต้อง "คาย" พระจันท์