หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/64

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
49

2 นาที เผอิญงาช้างตัวหนึ่งหักสะบั้น ผู้อำนวยการเห็นก็ถามฉันทันทีว่า จะโปรดไห้หยุดหรือยัง ฉันเข้าไจว่า เขาหยากไห้หยุด ก็ตอบว่า หยุดเถิด แต่ยังนึกฉงนว่า เขาจะห้ามช้างหย่างไร เห็นเขาโบกมือไห้สัญญา พวกกรมช้างที่แอบหยู่ไนกำแพงแก้วก็จุดดอกไม้ไฟหย่างไฟพเนียงมีด้ามถือวิ่งตรงเข้าไปที่ช้าง ช้างกลัวไฟก็เลิกชนวิ่งหนีแยกกันไป พอช้างสองตัวไปห่างแล้ว คนก็ขี่ม้าเข้าไปเอาแพนล่อพาช้างกลับไปโรงทั้งสองตัว ได้ดูชนกันครู่เดียว ผู้อำนวยการเขาบอกไห้ซาบเมื่อพายหลังว่า ธัมดาช้างชนนั้น ถ้าตัวไหนชนแพ้ครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่สู้ช้างอีกต่อไป เห็นช้างตัวงาหักเสียที กลัวจะเลยเสียช้าง จึงได้ขอไห้รีบเลิกเสีย ฉันได้ดูชนช้างที่ชัยบุระแม้ดูเพียงครู่เดียวก็สนุกจับไจ ด้วยเปนการหย่างหนึ่งไนตำราคชสาสตรแต่ดึกดำบรรพซึ่งชาวอินเดียเขายังรักสามา เปนแต่มาแปลงเปนการกิลาไนสมัยเมื่อเลิกไช้ช้างรบพุ่งแล้ว ไทยเราก็มีวิชาคชสาสตรคล้ายกับชาวอินเดียดังจะพรรนนาไนนิทานเรื่องอื่นต่อไปข้างหน้า

วันหนึ่ง เขาพาฉันไปดูพิพิธภันทสถานของเมืองชัยบุระ ไปเห็นรูปปั้นเปนรือสีหย่างไนอินเดีย ทำท่าต่าง ๆ เหมือนหย่างรูปรือสีดัดตนไนวัดพระเชตุพนฯ แต่ขนาดย่อม ๆ ตั้งเรียงไว้ไนตู้ไบหนึ่ง ที่จิงควนฉันจะถามเขาว่า รูปอะไร แต่ฉันไปอวดรู้ถามเขาว่า รูปเหล่านั้นเปนแบบ

7