หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/87

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
72

เปนอิถหยู่เช่นนั้น รูปพระเจดีย์เดิมเห็นจะเปนหย่างซงโอคว่ำ ก็เหมือนซงลอมฟางหย่างที่ไม่คอดเช่นว่ามาแล้ว เมื่อไปบูชา ฉันคิดเห็นเพียงเท่านั้น ต่อมาอีกหลายสิบปี จึงได้เห็นรูปพระสถูปเจดีย์แบบเดิมที่เมืองสารเขต อันเปนเมืองโบรานรุ่นเดียวกับเมืองนครปถม หยู่ไกล้เมืองแปรไนประเทสพม่า รูปซงคล้ายกับโอคว่ำหรือโคมหวดคว่ำ มีบัลลังก์ปักฉัตรเปนยอดหยู่ข้างบน ชั้นประทักสินทำแต่เหมือนหย่างบันไดขั้นเดียวติดกับถานพระสถูป พระสถูปเจดีย์เมืองอนุราธบุรีไนลังกาทวีปที่ส้างชั้นเดิมก็เปนรูปเช่นว่า และได้เห็นรูปภาพไนหนังสืออังกริดแต่งว่าด้วยพุทธเจดีย์ไนคันธารราสด์ก็ว่า พระสถูปชั้นเดิมรูปเปนหย่างนั้น แล้วกล่าวอธิบายต่อไปว่า ชาวอินเดียแต่โบรานกลัวบาป ไม่รื้อแย่งพระเจดีย์ ถ้าจะบุรนะปติสังขรน์ ก็มีแต่ก่อพอกเพิ่มพระเจดีย์เดิม เปนเหตุไห้รูปซงพระเจดีย์เปลี่ยนไปดังปรากตไนชั้นหลัง แม้พระธัมเมกขเจดีย์ที่มรึคทายวันเขาก็ตรวดพบว่า มีองค์เดิมซึ่งสันนิถานว่า ส้างครั้งพระเจ้าอโสกมหาราชหยู่ข้างไนไม่สู้ไหย่นัก ก่อองค์ที่ยังแลเห็นอิถครอบองค์เดิม แล้วยังมีผู้สัทธามาก่อสิลาครอบเข้าข้างนอกอีกชั้นหนึ่ง แต่ทำไม่สำเหร็ดค้างหยู่ เขาสังเกตลวดลายที่จำหลักว่า เปนแบบของช่างสมัยราชวงส์สุงคะราว พ.ส. 450 พระธัมเมกขเจดีย์จึงกลายเปนรูป 2 ลอนด้วยประการฉะนี้ ถ้าเปนเช่นเขาว่า ที่ฉันสันนิถานว่า เปนเพราะมิจฉาทิตถิทำร้ายก็ผิดไป ถึงไทยเราก็ถือเปนคติมาแต่ดั้งเดิมเหมือนเช่นชาวอินเดียว่า ไม่ควนรื้อแย่งพุทธเจดีย์ แม้เพื่อจะบุรนะปติสังขรน์