หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/92

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
77

หยู่ผืนหนึ่ง ก็สิ้นกะหยิ่มไจ ด้วยมีพระภิกสุไทยองค์ไดองค์หนึ่งได้ไปถึงเสียก่อนแล้ว พิจารนาดูหนังสือไทยที่เขียนไว้กับผ้ากราบ บอกชื่อว่า "พระสังกันตเนตรได้มาบูชา" ฉันก็รู้จักตัว คือ พระสมุห์เนตร วัดเครือวัลย์ฯ พายหลังมาได้เปนพระราชาคนะที่พระสมุทมุนี ซึ่งเปนพระชอบเที่ยวธุดงค์มาแต่ยังหนุ่มจนขึ้นชื่อลือนาม แต่ฉันไม่ได้คาดว่า จะสามาถไปได้ถึงพุทธคยาไนอินเดียไนสมัยนั้น ก็ประหลาดไจ ที่ตำบนพุทธคยามีแต่วัดพระสรีมหาโพธิ หรือถ้าเรียกหย่างไทยก็ว่า "วัดโพธิ" กับบ้านพวกพราหมน์มหันต์หยู่หมู่หนึ่ง ไม่มีบ้านเรือนราสดรห้อมล้อมเหมือนเช่นที่วัดวิสนุบาท เพราะที่ดินตำบนนั้นเปนกรรมสิทธิ์ของพวกพราหมน์มหันต์ ดังจะบอกเหตุต่อไปข้างหน้า ที่วัดหยู่ห่างฝั่งลำน้ำเนรัญชรที่พระพุทธเจ้าซงลอยถาดไม่ถึง 10 เส้น แต่ลำน้ำเนรัญชรนั้น เวลาเมื่อฉันไป เปนรึดูแล้ง น้ำแห้งขาด แลดูท้องน้ำเปนแต่พื้นซายเม็ดไหย่ แต่เขาว่า ขุดลงไปตรงไหนก็ได้น้ำที่ไหลหยู่ไต้ซายเสมอ ตัววัดพระสรีมหาโพธิ เมื่อฉันไป มีสิ่งสำคันแต่พระปรางค์ไหย่หยู่ด้านหน้าทางทิสตะวันออกองค์หนึ่ง หลังพระปรางค์เข้าไปมีพระแท่น "รัตนบัลลังก์" เปนสิลาจำหลักแผ่นไหย่ ว่า พระเจ้าอโสกมหาราชซงส้างประดิสถานไว้ตรงที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อตรัสรู้ที่ไกล้โคนต้นพระสรีมหาโพธิแผ่นหนึ่ง ต่อพระแท่นไปก็ถึงต้นพระสรีมหาโพธิ มีถานก่อล้อมรอบต้นพระสรีมหาโพธิ เมื่อฉันไป ขนาดลำต้นราวสัก 4 กำ เปนทายาทสืบสันตติพรรนมาแต่พระสรีมหาโพธิต้นเดิมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้สักกี่ชั่ว