หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/99

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
84

สำคันอันได สอนพระธัมที่ไหนก็สอนได้ ทำไมจึงจะเริ่มฟื้นพระสาสนาด้วยตั้งวิวาทแย่งวัดกัน ดูไม่จำเปนเลย นายธัมมปาละคงไม่พอไจไนคำตอบ พูดกันเพียงเท่านั้น ต่อมา นายธัมมปาละเข้ามากรุงเทพฯ ได้สแดงปาถกถาชวนไทยไห้ร่วมมือหลายครั้ง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้เงินไปจากเมืองไทยสักเท่าไดนัก เพราะมีคนฟังปาถกถาภาสาอังกริดเข้าไจไม่มากนัก แม้คนที่ฟังเข้าไจก็มิไคร่มีไครชอบปติภานของนายธัมมปาละ ด้วยแกชอบไช้โวหารชวนไห้แค้นพวกมิจฉาทิตถิที่ได้พยายามทำลายพระพุทธสาสนามากว่า 700 ปี ทำไห้เห็นความประสงค์ที่จะไปฟื้นพระพุทธสาสนาแปรไปคล้ายกับจะไปแก้แค้นพวกมิจฉาทิตถิยิ่งกว่าไปทำบุญ ก็มักมิไคร่มีไครเลื่อมไส เมื่อนายธัมมปาละพยายามไปเที่ยวขอความช่วยเหลือตามประเทสต่าง ๆ ที่ถือพุทธสาสนา ได้เงินพอเปนทุน ก็ไช้นามมหาโพธิสมาคมฟ้องขับไล่พวกพราหมน์มหันต์เปนความกันไนสาลที่เมืองกัลกัตตา สาลตัดสินไห้มหาโพธิสมาคมแพ้คดี ด้วยอ้างว่า พวกพราหมน์มหันต์ได้มีกัมสิทธิ์ปกครองที่ดินมาหลายร้อยปีแล้ว และวัดพุทธคยานั้นพวกพราหมน์มหันต์ก็ได้ดูแลรักสานับถือว่า เปนวัดไนสาสนาของเขาเหมือนกัน นายธัมมปาละไม่ได้วัดพุทธคยาสมประสงค์ จึงเปลี่ยนที่ไปตั้งสถานีที่มรึคทายวันนะเมืองพารานสี ทำนองที่วัดไนมรึคทายวันจะเปนที่หลวง จึงได้รับความอุดหนุนของรัถบาลอินเดีย มหาโพธิสมาคมก็สามาถตั้งสถานีนะที่นั้นส้างวัดขึ้นไหม่ ขนานนามว่าวัด "มูลคันธกุดีวิหาร" และต่อมา ไปทำทางไมตรีดีกับพวกพราหมน์