เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๔๓ ง
๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๓
ราชกิจจานุเบกษา
ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๔.๐๐ น. เป็นต้นไป และข้อกำหนดตามความในมาตรา ๙ ประกอบตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๓ และประกาศตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๓ และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๖/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตามข้อ ๒ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง มีหน้าที่และอำนาจในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ นั้น
เพื่อให้การปฏิบัติตามข้อกำหนดตามความในมาตรา ๙ ประกอบมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และประกาศตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๓ ข้อ ๓ และข้อ ๕ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีประกาศ ดังนี้
ข้อ ๑ ห้ามมิให้บุคคลใด ๆ นำยานพาหนะเข้ามาหรือใช้ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานที่ได้รับมอบหมาย หรือใช้ในภารกิจของทางราชการ ดังนี้
๑.๑ ยานพาหนะซึ่งมีการดัดแปลงสภาพรถให้มีลักษณะเป็นหรือคล้ายเวที หรือติดตั้งเครื่องขยายเสียงพร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ หรือบรรทุกเครื่องขยายเสียง รวมถึงยานพาหนะที่มีการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่ หรือบรรทุกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่
๑.๒ รถสุขาเคลื่อนที่
๑.๓ ยานพาหนะที่ใช้ในการบรรทุกเครื่องอุปโภคบริโภคอันจะนำเข้ามาเพื่อประโยชน์แก่ผู้ชุมนุมในพื้นที่ที่มีการชุมนุมอันมิชอบด้วยกฎหมาย