มีพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำรัสเหนือเกล้าฯ ให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า ความในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติลักษณพยาน รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ นั้นมีว่า ในความอาญาซึ่งมีโทษหลวง คือ โทษประหารชีวิตร ริบราชบาทว์ จำคุก เช่นนี้ ตัวผู้ร้ายฤๅจำเลยจะอ้างตัวของตัวเองเปนพยาน ฤๅจะอ้างบิดามารดาสามีภรรยาแลบุตรของตนเปนพยาน ไม่ได้เปนอันขาดนั้น ทรงพระราชดำริห์เห็นว่า ไม่เปนยุติธรรม ควรแก้ไขให้เปนยุติธรรมยิ่งขึ้น จึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป ให้ยกมาตรา ๖ ในพระราชบัญญัติลักษณพยาน รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ เสีย แลให้ใช้ถ้อยคำดังนี้แทน คือ
มาตรา ๖ ในสรรพความแพ่งทั้งปวง โจทย์จะอ้างจำเลยเปนพยาน ฤๅจำเลยจะอ้างโจทย์จะเปนพยานก็ดี ฤๅตัวความจะอ้างตัวของตัวเองเปนพยานฝ่ายตัวก็ดี ฤๅโจทย์จำเลยจะอ้างบิดามารดาญาติบุตรสามีภรรยาข้าทาษของตนเองก็ดี ฤๅคนใดคนหนึ่งนอกจากที่กล่าวมานี้ก็ดี ก็ให้อ้างเปนพยานได้ ไม่ห้ามปราม ยกเสียแต่คนซึ่งไม่สามารถจะให้การเปนพยานได้ตามพระราชบัญญัตินี้ แลในความอาญาก็ให้ดุจเดียวกัน ห้ามแต่ไม่ให้โจทย์อ้างจำเลยเปนพยานเท่านั้น
ประกาศมาณวันจันทร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๑๘ เปนวันที่ ๑๑๔๒๓ ในรัชกาลปัตยุบันนี้