หน้า:ประชุมกฎหมายประจำศก (๐๘) - ๒๔๗๘.pdf/220

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๐๓

เงินที่ ๔ ต้องลดส่วนค่าตัวอีงอลงสี่ตำลึง สามบาท เอาแต่สามบาท ด้วยอีงออายุ ๑๗ ปีกับ ๔ เดือน ย่างเข้าใน ๑๘ ปี พิกัดกระเษียรอายุลดลงอยู่สามบาท แล้วนายเงินที่ ๕ ต้องออกเงินช่วยไถ่ รวมทั้งค่าตัวอ้ายกอ อีขอ อีงอ เปนเงินตรา ๓ ชั่ง ๕ ตำลึง สามบาท ถ้าอยู่กับนายเงินที่ ๕ ได้ ๒ ปีกับ ๘ เดือน อายุอีงอได้ ๒๐ ปีกับ ๒ เดือน ส่วนตัวอีงอ หลุดพ้นค่าตัว เปนไทย แต่อ้ายกอ อีขอ พ่อแม่ ค่าตัวคง ๓ ชั่ง ๕ ตำลึงตามเดิม ถ้าอ้ายกอ อีขอ อ้ายคอ อีงอ คนใดคนหนึ่ง ตายเสียในระหว่างนายเงินใดนายเงินหนึ่ง ก็ให้คิดยกส่วนค่าตัวผู้ตาย ผู้ยัง เปนภัพแก่นายเงินตามพระราชกำหนดกฎหมายเดิม ๚ะ

 มาตรา  ว่า ตั้งแต่จุลศักราช ๑๒๓๖ ปีจอ ฉศก นี้ไป ผู้มีสินมีทรัพย์จะรับช่วยไถ่คนยากจนขาดแคลนมาเปนทาษลงใหม่ก็ดี ทาษเก่าที่วางเงินมาแต่นายอื่น ๆ ก็ดี ซึ่งมีลูกทาษเกิดในปีมโรง สัมฤทธิศก ติดมาด้วยไซ้ ให้ผู้เปนเจ้าเบี้ยนายเงินพร้อมกันกับอำเภอกำนันแลตัวทาษทำสารกรมธรรม์เขียนด้วยเส้นหมึกให้ชัดเปนส่วนออกว่า ลูกทาษชายหญิงเกิดในปีนั้น ๆ อายุได้เท่านั้น เงินค่าตัวตามกระเษียรอายุใหม่เท่านั้น ให้ตัวทาษเขียนชื่อมันเอง ฤๅจ้างวานเขาเขียนชื่อมัน ไว้ในท้ายกรมธรรม์ แล้วประทับตราอำเภอกำนันไว้เปนสำคัญจงทุกฉบับ ๚ะ

 มาตรา  ทวยราษฎรซึ่งเปนไทยยังมิได้ทุกขยากลงเปนทาษ ผิว่าขัดสนข้นจนขาดแคลน บิดามารดาปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอาว์พี่ชายพี่หญิงจะเอาบุตรหลานที่เกิดตั้งแต่ปีมโรง สัมฤทธิศก อายุต่ำกว่า ๑๕ ปีลงมา ไปขายฝากประจำเชิงกระยาดอกเบี้ยไว้กับท่าน ลงชื่อ