หน้า:ประชุมกฎหมายประจำศก (๐๘) - ๒๔๗๘.pdf/29

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๐

ฝ่ายทหารพลเรือน แลหัวเมืองปากใต้ฝ่ายเหนือ แลราษฎรในกรุงนอกกรุง ให้ทราบทั่วกัน ด้วยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเศกแล้ว ประกอบด้วยพระมหากรุณาปรีชาญาณ การที่จะทำนุบำรุงรักษาพระบวรพุทธสาสนาเปนที่ปสันนาการเลื่อมใส พระราชหฤไทยโอบอ้อม รักษาสมณพราหมอาณาประชาราษฎรทั่วพระราชอาณาเขตรขอบขันธเสมา บันดาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ได้รับพระราชทานทำมาหากินอยู่เย็นเปนศุขทั่วกัน จึ่งทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงษ์ แต่ยังเปนสมุหพระกระลาโหมอยู่นั้น สำเร็จราชการต่างพระเนตรพระกรรณ ว่าราชการณเก๋งวรเทพยสถาน รับฎีกาตัดสีนกิจทุกข์ขัดข้องผู้มีคดีต่าง ๆ ด้วยน้ำใจเสมอโดยทางยุติธรรม แลทาษลูกหนี้มาร้องฎีกากล่าวโทษเจ้าหนี้นายเงินต่อสู้ต้นเงินดอกเบี้ยเปนความกันอยู่ที่โรงศาลโดยมาก เหนว่า แต่ก่อน ผู้ให้ทาษลูกหนี้กู้ขายจำนำผูกดอกเบี้ยชั่งละสิบสลึงบ้าง กึ่งตำลึงบ้าง เปนธรรมเนียมแต่เดิมต่อ ๆ มา ครั้นผู้ที่ขัดสนร้อนใจอยากได้เงินมาใช้ ก็ทำสารกรมธรรมกู้ขายจำนำสัญญาให้ดอกเบี้ยชั่งละห้าบาทบ้าง ตำลึงบ้าง สามบาทบ้าง ที่ทาษลูกหนี้ไม่สู้ร้อนใจ ก็ทำสารกรมธรรมสัญญาให้ดอกเบี้ยชั่งละกึ่งตำลึงบ้าง หกสลึงบ้าง บาทหนึ่งบ้าง สัญญากันมาก ๆ น้อย ๆ เพราะเจ้าหนี้นายเงินให้กู้ขายจำนำเงินไม่สู้มากเหมือนอย่างเงินให้กู้ขายจำนำในกาลประจุบันนี้

ประการหนึ่ง ลูกค้าพานิชในประเทศนอกประเทศเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเปนอันมาก ตั้งห้างแลบ้านเรือนตึกแพค้าขายทำมา