หน้า:ประชุมกฎหมายประจำศก (๑๔) - ๒๔๗๘.pdf/209

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙๓

ศาลจะให้สาบาลว่า จะแปลความซึ่งกล่าวกันในระหว่างผู้ซึ่งพูดต่างภาษากันนั้นโดยสัจโดยจริงตามที่ได้กล่าวกัน

 ผู้ต้องหานั้นจะได้มายังศาลโดยไม่ต้องมีเครื่องพันธนาการอันใด ให้มีแต่ผู้คุมซึ่งกำกับสำหรับไม่ให้หนีหายเท่านั้น พร้อมกับทนายของผู้ต้องหามาด้วยกันแล้ว อธิบดีศาลจะได้ถามชื่อ อายุ ตำแหน่งซึ่งประกอบกิจการงาน กับตำบลที่เกิดของผู้ต้องนั้นแล้ว ก็จะได้บอกให้ผู้ต้องหาเอาใจใส่คอยฟังความซึ่งจะได้ยินต่อไปแล้ว ในขณะนั้น อธิบดีศาลจะได้มีคำสั่งให้ยกระบัตรศาลอ่านคำฟ้อง ซึ่งยกระบัตรจะต้องอ่านด้วยเสียงอันดังด้วยแล้ว

 พนักงานผู้เปนทนายแผ่นดินจะได้กล่าวคำอธิบายในเรื่องที่ฟ้องหานั้นแล้ว ภายหลังจะได้ยื่นรายชื่อพยานผู้ซึ่งควรจะให้มาเบิกความตามที่ทนายแผ่นดินขอให้สืบฤๅตามที่ผู้ต้องหาขอให้สืบนั้น รายชื่อพยานนี้ยกระบัตรศาลจะได้อ่านขึ้นโดยเสียงอันดังด้วยแล้ว

 อธิบดีศาลจะได้สั่งให้พยานออกไปอยู่ในห้องหนึ่งซึ่งจัดไว้สำหรับพยานพัก ห้ามไม่ให้พยานไปจากห้องนั้น เว้นไว้แต่จะเข้าไปเบิกความในศาล

 ผู้ต้องหานั้นจะต้องถามเอาคำให้การไว้แล้ว จะได้ถามพยานผู้ซึ่งต้องสาบาลว่า จะเบิกความตามที่รู้เห็นแต่โดยสัจโดยจริง ไม่มีสิ่งอื่นนอกจากความสัจแล้ว ยกระบัตรศาลจะต้องจดถ้อยคำลงไว้ กับทั้งชื่อพยาน คือ ชื่อตัว ตำแหน่งซึ่งประกอบกิจการงาน อายุ แลตำบลที่อยู่ของพยานนั้น

 เมื่อได้ถามพยานเบิกความแล้วเปนคำ ๆ ไปนั้น อธิบดีศาล