ตา หอมยี่หร่ารศร้อนแรง" เปนต้น ตลอดจนว่าด้วยงานนักขัตฤกษ์ เข้าใจว่า ทรงพระราชนิพนธ์แต่เมื่อในรัชกาลที่ ๑ ผู้หลักผู้ใหญ่เล่ากันมาว่า พระราชนิพนธ์นี้ทรงชมสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีแต่ยังเปนสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ ด้วยกระบวนแต่งเครื่องเสวยไม่มีผู้ใดจะดีเสมอในครั้งนั้น บทเห่เรือซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาไลยทรงพระราชนิพนธ์ก็สำหรับเห่เรือเสด็จประพาศ มิได้ใช้ในราชการ ความข้อนี้ ในโคลงพยุหยาตราพระกฐินซึ่งกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสทรงนิพนธ์เมื่อในรัชกาลที่ ๓ ไม่ได้กล่าวถึงเห่เรือเลย จึงเข้าใจว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เอาบทเห่เรือทั้งบทครั้งกรุงเก่าแลบทพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๒ มาใช้เห่เรือในราชการต่อเมื่อในรัชกาลที่ ๔
๓บทเห่พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕ นั้น มีแต่ชมโฉมบทเดียว ทรงพระราชนิพนธ์สำหรับให้เห่ถวายเวลาลอยพระประทีปดังกล่าวมา ไม่ใคร่จะได้ใช้ในที่อื่น นาน ๆ ได้ยินเอาไปเห่กระบวนพระกฐินพยุหยาตราครั้ง ๑ เห่พระราชนิพนธ์เรื่องนี้ ผู้เคยตามเสด็จลงเรือบัลลังก์ลอยพระประทีปได้ยินเห่ทุก ๆ ปี จึงจำไว้ได้ แต่ไม่ปรากฎว่า เคยพิมพ์ฤๅจดไว้ที่ไหน เมื่อจะพิมพ์สมุดเล่มนี้ ข้าพเจ้าเองก็ลืมเสียมาก เที่ยวสืบหาหนังสือก็ไม่ได้ ต้องเที่ยวถามตามผู้ที่เคยจำไว้ ได้มาเพียงเท่าที่พิมพ์ ยังขาดอยู ๒ บาท ขอโอกาศแจ้งไว้ในคำนำนี้ ถ้าท่านผู้ใดได้จดไว้ฤๅจำได้จนจบ ถ้า